New! Sign in to manage your account, view your records, download reports (PDF/CSV), and view your backups. Sign in here!
Share this article:

ตัดสินใจให้ถูกเวลา: เมื่อไหร่ควรบอกข่าวตั้งครรภ์

มันเกิดขึ้นจริงแล้ว — ผลยืนยันการตั้งครรภ์และอีกไม่ถึงเก้าเดือนลูกน้อยจะเข้ามาเติมเต็มชีวิตคุณ! บางคนอาจอยากประกาศข่าวดีให้โลกรู้ทันที หรือบางคนเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองให้นานที่สุด แบบไหนเหมาะสมกว่า? มี “เวลาที่เหมาะสม” หรือไม่สำหรับการบอกข่าวตั้งครรภ์?

คู่มือเวลาแจ้งข่าวตั้งครรภ์: ควรประกาศข่าวดีเมื่อไร

ในหลายๆ ที่ทั่วโลก ผู้คนมักเชื่อว่าควรประกาศการตั้งครรภ์หลังผ่านไประยะหนึ่ง ผสมผสานระหว่างความเชื่อแบบโบราณและความห่วงใยที่มีเหตุผล ทำให้ปัญหาในการเลือกเวลาบอกข่าวตั้งครรภ์ยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้

บทความนี้จะช่วยแนะนำแนวทางสำหรับเลือกเวลาที่เหมาะสมในการประกาศข่าว — กับครอบครัว คนสนิท เพื่อน ญาติ ออนไลน์ และในที่ทำงานของคุณ

เมื่อไหร่ควรบอกข่าวตั้งครรภ์?

ถ้านี่เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรกของคุณ คุณอาจรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด แม้จะเคยตั้งครรภ์มาก่อน แต่ไม่มีครรภ์ใดเหมือนกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจทำให้คุณแปลกใจได้

การแชร์ข่าวดีแบบนี้ดูจะเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในยุคที่เราแชร์เรื่องราวในโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น แต่การตัดสินใจบอกคนอื่นเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่ง

บางครอบครัว อาจเริ่มพร้อมหน้ากันตั้งแต่แรก ลุ้นผลตรวจตั้งครรภ์ด้วยกัน หวังผลเป็นบวกด้วยใจจดจ่อ แต่ก็มีหลายกรณีที่การแจ้งข่าวกับคู่ครองอาจไม่ราบรื่นนัก เพราะอาจเป็นความตั้งครรภ์ที่ไม่คาดคิด เวลาอาจไม่เหมาะสม หรือความสัมพันธ์อาจยังไม่มั่นคง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด สิ่งสำคัญคือการมีคนรอบตัวที่พร้อมจะให้กำลังใจคุณระหว่างการตั้งครรภ์

เส้นทางการค้นพบ: จากรู้ตัวถึงการบอกข่าวตั้งครรภ์


จากรู้ตัวจนถึงประกาศข่าว—ไทม์ไลน์คร่าวๆ

ปีที่สมาชิกใหม่จะเกิดมา มักเต็มไปด้วยหลากอารมณ์ความรู้สึก ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย รวมทั้งคนรอบข้างก็เกี่ยวข้องด้วยหลายระดับ

โอ้พระเจ้า! ฉันตั้งครรภ์!

ผู้หญิงส่วนมากจะเริ่มรู้ตัวว่าตั้งครรภ์เมื่อ ประจำเดือนขาด และตรวจปัสสาวะได้ผลบวก แม้บางคนจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในร่างกายได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ด้วยสาเหตุของวิธีคำนวณอายุครรภ์ หากตรวจแล้วพบผลบวกตั้งแต่วันที่ประจำเดือนขาด คุณจะนับว่าอายุครรภ์ 4 สัปดาห์แล้ว แม้ว่าการปฏิสนธิจริงจะเกิด ประมาณช่วงไข่ตก ซึ่งห่างจากรอบเดือนปกติแค่ 2 สัปดาห์

ครรภ์นี้แข็งแรงไหม?

การสูญเสียการตั้งครรภ์ยังคงเป็นเรื่องที่ผู้คนไม่พูดถึงนัก แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น งานวิจัยบางชิ้นระบุว่า มากถึง 50-75% ของการปฏิสนธิสูญเสียไปก่อนจะตรวจพบครรภ์เสียอีก

การสูญเสียในช่วงที่ฮอร์โมน hCG เริ่มขึ้นแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันถือเป็นการสูญเสียทางชีวเคมี ซึ่งอาจเหมือนกับ ประจำเดือนผิดปกติ เพราะร่างกายแม่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากจนสังเกตเห็นได้

คาดว่าประมาณ 10% หรือ1 ใน 5 การตั้งครรภ์ที่ยืนยันแล้วจบลงด้วยการแท้ง โดยส่วนใหญ่เกิดในไตรมาสแรก ความเสี่ยงลดลงอย่างชัดเจนหลังพ้น 12 สัปดาห์แรก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงหลายคนรอจนพ้นจุดนี้ถึงค่อยประกาศข่าว

ความจริงแล้ว การแท้งเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิดโดยมากเกิดตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะเป็นเรื่องสูญเสียสำหรับพ่อแม่หลายคู่ แต่บางครั้งก็อาจไม่มีใครรับรู้นอกจากคนในครอบครัวเอง

ตรวจครรภ์กับแพทย์ครั้งแรก

โดยทั่วไป แพทย์จะนัดพบครั้งแรกที่ประมาณสัปดาห์ที่ 8 อาจมีช้าหรือเร็วกว่าได้ สูตินรีแพทย์จะตรวจสอบอายุครรภ์ ถามประวัติสุขภาพ และค้นหาความเสี่ยงใดๆ ที่อาจมี

แม้จะได้ข้อมูลคร่าวๆ แต่ช่วงแรกนี้มักยังต้องลุ้นว่าจะราบรื่นหรือไม่ ช่วงสัปดาห์ 9-12 ลูกจะโตจากขนาดเมล็ดถั่วถึงเท่าหัวกระเทียม สารพัดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอด และความเสี่ยงแท้งลดลงโดยเฉพาะเมื่อเข้าไตรมาสสอง

อัลตราซาวด์บอกอะไรได้บ้าง

ในหลายประเทศ การอัลตราซาวด์ครรภ์กลายเป็นมาตรฐานแล้ว แต่แต่ละที่ก็ต่างกัน อย่างในอเมริกา ทารกจะได้รับการอัลตราซาวด์ 2 ครั้งคือราว 12 สัปดาห์ และ 20 สัปดาห์ แต่ในบางประเทศที่ขาดแคลนเครื่องมือ อาจไม่ได้มีโอกาสตรวจแบบนั้น

Advertisement


การตรวจที่12 สัปดาห์จะช่วยประเมินอายุครรภ์ ดูพัฒนาการว่าดำเนินไปดีไหม ตรวจว่าทารกเกาะอยู่ในมดลูกตามปกติหรือไม่ (ไม่ใช่ครรภ์นอกมดลูก) ดูจำนวนทารก และความผิดปกติของโครโมโซม ถ้ามีการแท้ง ก็ตรวจพบได้เช่นกัน

ครบ 12 สัปดาห์จึงเป็นจุดยอดนิยมที่หลายคนเลือกประกาศข่าวตั้งครรภ์ แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วก็ขึ้นกับคุณ

การตรวจที่20 สัปดาห์ หรือครึ่งทางครรภ์จะเห็นรายละเอียดมากขึ้น เห็นหน้า ก้นกบ แขนขา ทารกขยับ หัวใจ เห็นอวัยวะหลักสำคัญ และอาจรู้เพศหากต้องการ (แต่บางทียังเร็วไปนิด) สแกนช่วยดูตำแหน่งรกและสุขภาพของลูกได้ด้วย หากมีการแท้งในช่วงนี้ถือว่าหายากมาก

ประเพณีรอ 12 สัปดาห์ก่อนบอกข่าว

ไตรมาสแรกของแต่ละครรภ์ถือเป็นก้าวสำคัญ ในช่วงต้นนี้ท้องของคุณอาจยังไม่แสดงชัดเจน แต่บรรดาอาการตั้งครรภ์จะมาแล้ว: คุณอาจเหนื่อยง่ายกว่าปกติและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินบ้าง ถ้าโชคดี อาการแพ้ท้องหายไปบ้างและพอจะมีแรงเตรียมตัวต้อนรับลูกแล้ว สำหรับหลายครอบครัว ช่วงนี้เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นและแสนพิเศษ แต่อีกด้านหนึ่งก็เปี่ยมไปด้วยความไม่แน่นอน

ไม่มีอะไรผิดหากจะรอจนกว่าจะพร้อมและรักษาความสงบสุขส่วนตัวไว้ก่อน ผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกแบบนั้น

ทำไมมีธรรมเนียมนี้?

เหตุผลสำคัญที่คนมักรอประกาศคือ “ความไม่แน่นอน” และ “ความเสี่ยง” ทั้งจากการตั้งครรภ์และการคลอด สมัยก่อนที่การแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือแท้งสูงกว่ามาก ในสังคมเก่าๆ จึงนิยมไม่พูดเรื่องนี้จนเริ่มเห็นครรภ์ชัดเจน

วิเคราะห์ข้อดี-เสียของการบอกข่าวเร็ว

ถ้าคุณเป็นคนเปิดเผย เรื่องใหญ่แบบนี้คงรู้สึกแปลกหรือเสียใจถ้าต้องปิดไว้ ไม่มีแบบใดถูกหรือผิด มีแต่ข้อดีข้อเสียดังนี้ ท้องเริ่มโตเมื่อไหร่ก็ปิดไม่มิด ถึงอย่างไรการเลื่อนเวลาบอกข่าวให้ช้าขึ้นก็ช่วยพักใจคุณได้บ้าง

ความสนใจที่ไม่ต้องการและอาการแพ้ท้อง

เมื่อพูดถึงครรภ์หรือเด็ก คนรอบตัวทั้งรู้จักหรือไม่รู้จัก โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยกัน อาจชอบถามหรือให้คำแนะนำแบบไม่ขอ ทุกคนอาจอ่านสถานการณ์ไม่เก่ง บางคนก็คิดว่ามีสิทธิ์ตัดสินหรือควบคุมร่างกายแม่ในนามความห่วงใย

แม้เขาจะหวังดี แต่คุณไม่จำเป็นต้องเชิญเข้ามาถ้าคุณยังไม่พร้อม แม้แต่คนที่เคยมีลูกเองยังไม่รู้เสมอไปว่าอะไรเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

ความเสี่ยงจากการถูกเลือกปฏิบัติ

น่าเสียดายที่หญิงตั้งครรภ์ยังคงเป็นกลุ่มเปราะบางทางสังคมและมีความเสี่ยงจะถูกเลือกปฏิบัติอยู่อย่างมาก ในเวลาที่ชีวิตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจเจอปัญหาถูกไล่ออกจากงานหรือถูกเจ้าของบ้านยกเลิกสัญญาเช่าเพราะคิดว่าเด็กจะสร้างปัญหา

โปรดจำไว้ว่า ผู้หญิงมีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในที่ทำงาน ห้ามเลิกจ้าง ไม่อนุมัติงานใหม่ ไม่เลื่อนตำแหน่ง ตัดเงินเดือน หรือกระทำการเลือกปฏิบัติ

ความเสี่ยงของการแท้ง

แม้ไม่อยากคิดถึง แต่การแท้งเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แม้คนที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเองแต่โอกาสก็มี

ในแง่นี้ คุณอยากบอกเพื่อนคนสนิทเพื่อให้พวกเขาได้แบ่งปันทั้งความสุขและความเศร้าด้วยหรือเปล่า หรือจะหลีกเลี่ยงการต้องตอบคำถามเจ็บปวดซ้ำๆ ว่า "ฉันไม่ได้ท้องแล้วนะ"

แต่ละคนมีข้อจำกัดและบริบทชีวิตต่างกัน ในอดีตผู้หญิงต้องอดกลั้นและจมกับความเสียใจตามลำพังเพราะสังคมสั่งให้เงียบ ปัจจุบันสังคมเปิดกว้างมากขึ้นแต่ก็ยังเป็นเรื่องส่วนบุคคลหากไม่ต้องการพูดถึง

ทุกวันนี้มีหลายกลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ที่ผ่านประสบการณ์เดียวกัน ให้กำลังใจกันและกัน

ไทม์ไลน์บอกข่าวตั้งครรภ์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคน


เลือกไทม์ไลน์บอกข่าวตั้งครรภ์ให้เหมาะกับชีวิตคุณ

จะเห็นได้ว่า ไม่มีเวลาที่ใช่ที่สุดแน่นอน ขึ้นกับแต่ละคนจริงๆ คุณควรคำนึงถึงสภาวะแวดล้อม ความสบายใจ และจะรับมือกับความสนใจที่อาจได้รับ ทั้งจากเพื่อนสนิทญาติ หรือแม้แต่อาจเป็นคนแปลกหน้าด้วย

บอกคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท

ไม่มีข้อบังคับว่าคุณต้องบอกข่าวกับใคร แม้จะมีคนคาดหวังอยู่บ้าง ลองชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีข้อเสียของการบอกคนใกล้ตัว

การมีลูกใหม่ โดยเฉพาะลูกคนแรกของครอบครัว คือโปรเจ็กใหญ่ ยิ่งเข้าใกล้วันคลอดและหลังคลอดทันที การมีเพื่อนหรือญาติช่วยจะสร้างความแตกต่างได้มาก เครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแรงนั้นมีคุณค่ามาก คนที่รู้เรื่องเร็วก็จะรู้สึกยินดีและเห็นว่าตนสำคัญในชีวิตคุณ

ในขณะเดียวกัน บางครั้งคนใกล้ตัวก็อาจเป็นคนที่ทำให้คุณรู้สึกเครียดหรือถูกรบกวนหรือโดนตัดสิน ถ้ามีใครทำให้คุณกังวลใจหรือลังเลที่จะเปิดเผย การเก็บข่าวไว้กับตัวเองนานขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด

บางคนอาจรู้สึกเสียใจถ้าคิดว่าตนไม่ได้ร่วมรับรู้ข่าวดีกับคุณ เรื่องนี้อาจจะมีผลตามมาก็ได้ในระยะยาว

คุณต้องตัดสินใจเองว่ากำลังทำคนเดียวหรือต้องนึกถึงคู่ชีวิตและครอบครัวเขาด้วย คุณจะบอกทีละคนหรือบอกทุกคนพร้อมกันในงานรวมญาติ คุณเชื่อใจได้ไหมว่าคนเหล่านั้นจะรักษาข่าวดีไว้ให้คุณหรือจะเผลอเล่าให้ทุกคนรู้หมด

สุดท้ายก็ขึ้นกับคุณ ท้องจะปรากฏขึ้นในที่สุดอยู่ดี คุณสามารถเว้นระยะให้ตัวเองปรับตัวและยอมรับความจริงใหม่ๆ ได้เช่นกันถ้านั่นคือสิ่งที่คุณสบายใจ

บอกที่ทำงาน

การเลือกเวลาบอกข่าวที่ทำงานอาจยุ่งยากพอสมควร เพราะมันเกี่ยวข้องกับทั้งตัวตนและชีวิตการทำงาน คุณจะบอกหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานอย่างไรขึ้นกับสถานการณ์ของคุณเอง

ทำงานที่นี่มานานแค่ไหน คาดว่าจะอยู่นานอีกไหม ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเป็นอย่างไร ทีมหรือองค์กรของคุณสนิทกันไหม หรือใครก็ทำธุระของตัวเอง สไตล์ที่ทำงานเป็นทางการหรือกันเองมากกว่า

ท้ายที่สุดแล้วคุณต้องบอกเจ้านายแน่ๆ เพราะจะต้องขอลาหรือขอความช่วยเหลือ อาจต้องปรับเวลาทำงานตั้งแต่ไตรมาสแรกหากมีอาการแพ้ท้อง แต่บอกเพื่อนร่วมงานคนอื่นหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ ถ้าเจอสถานการณ์รุนแรงหรือบริษัทไม่เอื้ออำนวยหลังประกาศข่าวตั้งครรภ์ คุณมีสิทธิร้องเรียนและปกป้องตัวเอง ความปลอดภัยและสุขภาพของคุณกับลูกควรมาเป็นอันดับแรก

บอกผ่านโซเชียลมีเดีย

การเปิดเผยข่าวครรภ์กับคนหมู่มากในโซเชียลต้องระวัง เพราะข่าวดีมักกระจายเร็ว ควรให้เวลาตัวเองทำใจให้คุ้นชินก่อนเปิดรับทุกกระแสความเห็นในโลกออนไลน์

การบอกข่าวคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง

วันนี้คุณมีตัวเลือกหลากหลายในการบอกข่าวตั้งครรภ์ จะเลือกแบบไหนก็เหมาะกับสไตล์คุณ เช่น

  • บอกข่าวตั้งครรภ์
  • แจ้งข่าวในที่ทำงาน
  • โพสต์ในโซเชียล
  • เฉลยเพศลูก
  • จัดงานปาร์ตี้ลูกแรกเกิด (baby shower)

จะทางการ ชิลๆ เรียบง่าย มีลูกเล่น หรือจัดใหญ่โตแค่ไหนก็ถูกต้องถ้าเป็นทางของคุณ ถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ดีไซน์ของขวัญพิเศษ หรือใช้เรื่องขำๆ เฉพาะเพื่อนกลุ่มสนิทก็ย่อมได้

แน่นอนว่าแต่ละไตรมาสก็มีอุปสรรคของตัวเอง แม้ครรภ์ปกติดี หากมีความซับซ้อน ประกาศข่าวออกไปยิ่งยากขึ้น การเลือกเวลาบอกข่าวควรเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลเสมอ

สรุป

การตัดสินใจว่าจะบอกข่าวตั้งครรภ์เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับความสบายใจและเงื่อนไขเฉพาะตัวของคุณ ไปตามสัญชาตญาณ และเลือกเวลาที่เหมาะกับคุณ คู่ชีวิต และลูกน้อยในช่วงเวลานั้นที่สุด

ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

Share this article:
https://americanpregnancy.org/healthy-pregnancy/when-should-i-tell-others-im-having-a-baby/
https://www.pregnancybirthbaby.org.au/when-to-tell-people-you-are-pregnant
https://www.insider.com/guides/health/reproductive-health/when-to-announce-pregnancy
https://patient.info/news-and-features/when-should-you-announce-a-pregnancy
https://www.nhs.uk/pregnancy/your-pregnancy-care/12-week-scan/
https://nationalpartnership.org/report/pregnancy-rights-in-workplace/
https://raisingchildren.net.au/pregnancy/health-wellbeing/tests-appointments/12-week-ultrasound-pregnancy-scan
https://raisingchildren.net.au/pregnancy/health-wellbeing/tests-appointments/20-week-ultrasound-scan
https://bmcmedicine.biomedcentral.com/articles/10.1186/1741-7015-11-154
Advertisement


เราได้ยินกันบ่อยว่าการเลี้ยงดูเด็กต้องใช้หลายคนช่วยกัน และการคลอดลูกก็ไม่ใช่ภารกิจที่ควรต้องเผชิญตามลำพัง ผู้หญิงสนับสนุนกันและกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเตรียมคลอด ระหว่างคลอด หรือขณะต้อนรับลูกน้อยสู่โลกใบใหม่ ซึ่งปัจจุบบบทบาทนี้มักมอบหมายให้กับผดุงครรภ์และดูลา
สงสัยไหมว่าผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยหรือไม่? หรือควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเดินทางด้วยรูปแบบการเดินทางต่าง ๆ? ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สวยงาม แต่ก็นำมาซึ่งคำถามและความกังวลมากมาย การเดินทางขณะตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น แต่ยังยากลำบากกว่าเดิม
โอกาสในการตั้งครรภ์ในเดือนแรกหลังเริ่มพยายามมีแค่ 20-30% เท่านั้น ยิ่งพยายามนานขึ้น โอกาสสำเร็จก็ยิ่งดีขึ้น ประมาณ 80% ของคู่รักสามารถตั้งครรภ์ได้ภายในปีแรกของการพยายาม อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเพราะมีหลายปัจจัยที่ลดโอกาสในการปฏิสนธิ หนึ่งในปัจจัยที่น่าสนใจก็คือ 'ทฤษฎีมดลูกเลือกได้' บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าต้องมีอะไรบ้างถึงจะตั้งครรภ์ได้ และบางที...มดลูกของคุณอาจกำลังขัดขวางอยู่