ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

“พีแกซึม” อันตรายหรือไม่ ปลอดภัยหรือเปล่า?

ถ้าไม่มีห้องน้ำอยู่ใกล้ ๆ การกลั้นปัสสาวะไว้สักพักไม่ได้อันตรายอะไร มันเกิดขึ้นกับทุกคนอยู่แล้ว และความรู้สึกไม่สบายนี้จะหายไปทันทีที่คุณได้ปลดปล่อยปัสสาวะตามต้องการ

เจาะลึกปรากฏการณ์ 'พีแกซึม' และข้อควรระวังด้านสุขภาพ

แต่การกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ และนาน ๆ เพื่อให้รู้สึกคล้ายถึงจุดสุดยอดทางเพศนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีนัก และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วย

แคชเชียร์ พนักงานสายงานผลิต พนักงานขายในบูธ พนักงานขับรถบรรทุก หรือแม้แต่ครู—ในบางอาชีพ การไม่ได้เข้าห้องน้ำระหว่างงานเป็นปัญหาบ่อยครั้ง ทุกคนต่างก็เคยรู้สึกปวดปัสสาวะอย่างมากแต่ไม่มีโอกาสไปเข้าห้องน้ำ เช่น เมื่อเป็นผู้โดยสารบนรถบัสที่ไม่มีห้องน้ำ พอถึงเวลาที่ได้ไปห้องน้ำแล้ว จะรู้สึกโล่งเบาสบาย สำหรับบางคน ความสุขนี้มากจนเกือบจะเหมือนกับถึงจุดสุดยอดทางเพศเลยทีเดียว

ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับกายวิภาค

ปรากฏการณ์นี้อธิบายได้ด้วยสรีรวิทยาของผู้หญิง—คลิตอริส ช่องคลอด และท่อปัสสาวะ (ที่เชื่อมต่อกับกระเพาะปัสสาวะ) อยู่ใกล้กันมาก เมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็มจะไปกดจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเราอย่างโครงสร้างภายในของคลิตอริส จนกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ (นี่คือข้อเท็จจริงเรื่องคลิตอริสที่คุณควรรู้)

จุดจีสปอตที่หายากนั้นก็อยู่ใกล้กระเพาะปัสสาวะ ตรงบริเวณที่โครงสร้างคลิตอริสด้านในเชื่อมกับเครือข่ายท่อปัสสาวะ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาปวดฉี่มากถึงทำให้มีประสบการณ์ทางเพศที่ลึกซึ้งขึ้น และยังอธิบายได้ว่าทำไมคุณถึงรู้สึกเหมือนจะปัสสาวะระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทั้ง ๆ ที่กระเพาะปัสสาวะว่างเปล่า (อ่านเพิ่มเติม)

ลักษณะทางกายภาพเช่นนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดพฤติกรรมทางเพศรูปแบบใหม่ของผู้หญิงที่เรียกว่า พีแกซึม (peegasm มาจาก pee + orgasm) พีแกซึมคือความรู้สึกเหมือนถึงจุดสุดยอดหลังจากที่คุณกลั้นปัสสาวะไว้นาน เมื่อคุณปลดปล่อยปัสสาวะ แรงกดที่เคยมีต่อจุดเสียวบริเวณเชิงกรานจะถูกปล่อยออกมากระตุ้นเส้นประสาทเพลิงเชิงกราน ทำให้เกิดความรู้สึกคล้ายการถึงจุดสุดยอดได้

แต่อย่างไรก็ดี พฤติกรรมนี้มีความเสี่ยง การกดดันระบบปัสสาวะด้วยวิธีนี้ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อกระเพาะปัสสาวะและไต เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสีย อย่าอั้นปัสสาวะจนปวดเกินไป และไม่ควรทำเพื่อหวังความสุขทางเพศเป็นนิสัย

เข้าใจความเสี่ยงของการอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ และผลกระทบต่อสุขภาพ


ความเสี่ยงเมื่อกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ

หากคุณมี กระเพาะปัสสาวะไวเกิน การกลั้นปัสสาวะอาจเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ อาการกระเพาะปัสสาวะไวเกิน เช่น การต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ผิดปกติ ควบคุมปัสสาวะไม่ได้ มีน้ำปัสสาวะเล็ด หรือปวดปัสสาวะเวลากลางคืนบ่อย การฝึกกระเพาะปัสสาวะช่วยให้จัดตารางการปลดปล่อยปัสสาวะได้สะดวกขึ้น

แต่อย่าลืม ควรได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน หากปัญหาแท้จริงเป็นอย่างอื่น การฝึกกระเพาะปัสสาวะอาจทำให้อาการแย่ลงได้

โปรดจำไว้ว่า การกลั้นปัสสาวะเมื่อร่างกายต้องการอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ จากแบคทีเรียที่สะสมในปัสสาวะได้มากขึ้น

สตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมากกว่าปกติ หากกำลังตั้งครรภ์ ยิ่งกลั้นปัสสาวะ ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้น

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอาจลุกลามไปสู่ ไต ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวร หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับไต กระเพาะปัสสาวะอัมพาต หรือกลั้นปัสสาวะ ควรระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อหรือโรคไตมากขึ้น

สัญญาณของการติดเชื้อที่ไต ได้แก่:

  • มีไข้
  • หนาวสั่น
  • ปวดหลัง สีข้าง หรือขาหนีบ
  • ปวดท้อง
  • ปัสสาวะบ่อย

ความรู้สึกปวดปัสสาวะเรื้อรัง เวลาปัสสาวะแสบหรือเจ็บ คลื่นไส้อาเจียน มีหนองหรือเลือดปนในปัสสาวะ หรือปัสสาวะขุ่นมีกลิ่นเหม็น ล้วนเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ไตได้

การติดเชื้อที่ไตต้องได้รับการรักษาโดยด่วน หากปล่อยไว้ อาจสร้างความเสียหายถาวรต่อไต และแบคทีเรียอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดจนเป็นภาวะติดเชื้อรุนแรงถึงชีวิต


การรักษาการติดเชื้อที่ไตมักต้องใช้ยาปฏิชีวนะ และอาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล

บางครั้งการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอาจนำไปสู่ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความอึดอัดใจ ระดับความรุนแรงมีตั้งแต่ปัสสาวะเล็ดเวลาไอหรือจาม ไปจนถึงปวดจนกลั้นไม่ไหวและเข้าห้องน้ำไม่ทัน

ถ้าภาวะนี้กระทบชีวิตประจำวัน อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ ในผู้หญิงส่วนใหญ่ สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและอาหารการกิน หรือฝึกกล้ามเนื้อ อาจมีการใช้ยาและวิธีการรักษาทางการแพทย์อีกหลายแบบสำหรับ อาการที่รุนแรง

การกลั้นปริมาณปัสสาวะมาก ๆ เป็นประจำอาจทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงต่อ ภาวะปัสสาวะคั่ง เมื่ออายุมากขึ้น ภาวะปัสสาวะคั่งคือการที่ปัสสาวะไม่ออกหมดทั้งที่รู้สึกปวด หากเป็นเรื้อรัง อาจต้องใช้สายสวนปัสสาวะเพื่อบรรเทาแรงดันในกระเพาะปัสสาวะ

ความแตกต่างระหว่างหญิงและชาย

กระเพาะปัสสาวะของผู้ใหญ่อาจรองรับน้ำปัสสาวะได้ประมาณ 300 ถึง 500 มล. ก่อนจะเริ่มรู้สึกปวด แต่กระเพาะปัสสาวะมีความยืดหยุ่นมาก จำไว้ว่ามดลูกจะกินเนื้อที่ในช่องท้องของผู้หญิง จึงทำให้ผู้หญิงรู้สึกปวดปัสสาวะเมื่อน้ำปัสสาวะมีปริมาณน้อยกว่า

ในผู้หญิง ท่อปัสสาวะ (ที่ปัสสาวะออกจากร่างกาย) ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ในขณะที่ผู้ชายท่อจะยาวถึง 18–20 เซนติเมตร ผู้ชายจึงต้องใช้แรงดันมากกว่าในการขับปัสสาวะออกจากท่อที่ยาวกว่า

หากจำเป็นต้องกลั้นปัสสาวะ: เคล็ดลับสำหรับคุณสาว ๆ

แม้จะเตรียมตัวดีแค่ไหน แต่บางสถานการณ์ก็อาจเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องกลั้นปัสสาวะ จำไว้ว่าต้องอดทนและรับมือให้ดีที่สุด

ยิ่งรู้สึกอยากปัสสาวะก็จะยิ่งคิดถึงเรื่องนั้น พยายามเบนความสนใจ ของตัวเอง เช่น ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ หรือโทรคุยกับเพื่อน


มีปรากฏการณ์ทางกายภาพที่ร่างกายตอบสนองกับสิ่งที่เกี่ยวกับน้ำ ทำให้ยิ่งอยากปัสสาวะ เช่น เสียงน้ำไหล (ซึ่งมักเจอในเสียงบำบัด) หรือภาพของลำธาร ทะเล สระน้ำ ก๊อกเปิด จะทำให้การกลั้นปัสสาวะยากขึ้น

นั่งจะง่ายกว่า ยืนหากต้องการลดแรงกดต่อกระเพาะปัสสาวะ ให้นั่งหลังตรงเล็กน้อย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเชิงกรานและหน้าท้อง มีสมาธิกับการหายใจ จินตนาการว่าท่อปัสสาวะของเราคลายลง (เหมือนในคลาสโยคะ) นอกจากนี้ ยังสามารถ สลับไขว้ขาแล้วคลายขา เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกได้

แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องยืน ให้ไขว้ขา จะช่วยบีบท่อปัสสาวะและบรรเทาความรู้สึกได้ หลีกเลี่ยงการเอนตัวไปข้างหน้าหรือดันท้องเพราะจะเพิ่มแรงกดต่อหน้าท้อง

หากมี ลมในท้อง ก็ระบายออกไป จะช่วยลดแรงกดในกระเพาะปัสสาวะได้

หลีกเลี่ยงการหัวเราะ! ทุกคนรู้กันว่าการหัวเราะจะเพิ่มแรงกดที่กระเพาะปัสสาวะทันที หากกระเพาะปัสสาวะเต็ม ให้จริงจังกับตัวเอง :D

ปกติเราถูกแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ แต่ช่วงวิกฤตที่หาห้องน้ำไม่ได้ จำกัดปริมาณของเหลวที่ดื่ม ไปก่อนจนหาห้องน้ำได้

สุดท้าย เมื่อได้เข้าห้องน้ำ ปัสสาวะให้หมดจนสุด โลกทั้งใบรอได้อีกไม่กี่นาทีเพื่อคุณ อย่าอั้นปัสสาวะหรือปล่อยไม่หมด เพราะนอกจากจะทำให้ปวดบ่อยกว่าเดิม ยังทำให้ร่างกายเคยชินกับการกลั้นปัสสาวะโดยไม่จำเป็น

สรุปคือ ตั้งใจฟังร่างกายตัวเองและตอบสนองเมื่อจำเป็น ดูแลเอาใจใส่ตัวเองให้มาก เมื่อคุณถนอมตัวเองได้ คุณจะมีพลังมากขึ้นให้กับโลกใบนี้

คุณสามารถติดตามรอบเดือนของคุณได้ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลยตอนนี้:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

สำรวจบน AppGallery

แชร์บทความนี้:
https://www.healthline.com/health/holding-pee
https://www.healthline.com/health-news/pee-gasms-happen-and-its-natural
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/kidney-infection/symptoms-causes/syc-20353387
https://www.healthline.com/health/urinary-retention
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/urinary-incontinence/symptoms-causes/syc-20352808
https://www.healthline.com/health/overactive-bladder/home-remedies
https://100feminin.fr/13-astuces-naturelles-se-retenir-daller-aux-toilettes-on-a-envie-pressante/#1_Restez_au_chaud
https://www.medicalnewstoday.com/articles/316706#importance-of-bladder-emptying
เรื่องเพศเป็นมากกว่าแค่ 'จุดสุดยอด' ประสบการณ์ทั้งกระบวน—การเล้าโลม มีเพศสัมพันธ์ และช่วงอารมณ์หอมหวานหลังเสร็จกิจ—ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความสุขเฉพาะตัว แน่นอนว่าการถึงจุดสุดยอดวิเศษมาก แต่สำหรับบางคน การปลุกเร้าอารมณ์อย่างเข้มข้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้
ความต้องการทางเพศ หรือที่เรียกว่าลิบิโด คือระดับความกระตือรือร้นของแต่ละคนต่อความใกล้ชิดทางเพศ ความต้องการนี้ได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ชีวิต ทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย และสังคม เช่น อายุ ฮอร์โมน ค่านิยมในครอบครัว วิถีชีวิต ประสบการณ์ทางเพศที่ผ่านมา แรงกดดันทางสังคม สุขภาพ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เราทุกคนล้วนแตกต่างกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คู่รักจะมีความต้องการทางเพศไม่เท่ากัน
ประจำเดือนเป็นเรื่องปกติในชีวิต แต่การพูดถึงอาจยากเพราะอคติทางสังคมและภาพจำเรื่องเพศ สองคนที่มีความสัมพันธ์โรแมนติกจะต้องรู้จักกันอย่างลึกซึ้ง และประจำเดือนก็เป็นประเด็นที่ต้องพูดถึงอย่างแน่นอนในสักวันหนึ่ง