หากคุณเคยมีฝีหนองที่ผิวหนัง เหงือก หรือส่วนอื่น ๆ ในหรือบนร่างกาย คุณจะทราบดีว่ามันทั้งเจ็บปวดและอันตราย และเพราะฝีหนองมักมีลักษณะคล้ายสิวหรือฝี คุณอาจรู้สึกอยากบีบหรือแตกมัน แต่ก่อนจะทำแบบนั้น โปรดอ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับฝีหนองอย่างปลอดภัย และเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรบีบฝีหนองด้วยตัวเอง
ฝีหนองอาจเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ซึ่งเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยแผล ขนคุด หรือเนื้อเยื่อที่เสียหาย ภูมิคุ้มกันของคุณจะรีบจัดการกับการติดเชื้อ และขณะเดียวกันเนื้อเยื่อบางส่วนจะตายไป ก่อให้เกิดโพรงเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหนองอยู่กลางเนื้อเยื่อที่อักเสบ
เช่นเดียวกับฝี (หรือ furuncle) ที่มักเกิดจากการติดเชื้อที่รูขุมขน ฝีหนองคือลักษณะเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อซึ่งเป็นโพรงเกิดได้ทุกที่ในหรือนอกร่างกาย แต่ฝีหนองมักใหญ่และลึกกว่า และหากไม่ถูกดูแลอย่างถูกต้องก็เสี่ยงกระจายเชื้อ การเกิดฝีเล็กๆ (ขนาดไม่เกิน 1 ซม./0.5 นิ้ว) อาจหายได้เอง แต่อาจโตขึ้นเป็นฝีหนองหากถูกรบกวน การบีบหรือกดฝีอาจทำให้เชื้อโรคลึกลงในเนื้อเยื่อและเสี่ยงเข้าสู่กระแสเลือด จึงไม่ควรพยายามเจาะหรือระบายฝีหนองเอง ทางที่ดีที่สุดคือให้แพทย์เป็นผู้ดูแลด้วยเทคนิค I & D (Incision and Drainage) ที่ถูกสุขลักษณะ
ฝีหนองจะมีลักษณะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิด โดยทั่วไปจะเห็นเป็นก้อนแดงหรือชมพูที่นูนตึง กดแล้วเจ็บ มีความยืดหยุ่น กึ่งแข็งคล้ายฟองน้ำ เนื้อในก็คือหนองที่เกิดจากเซลล์ตาย เชื้อแบคทีเรีย และเศษเนื้อเยื่อ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะสร้างหนองมากขึ้นเมื่อพยายามต่อสู้กับการติดเชื้อ ทำให้เกิดแรงดันใต้ผิวหนังและภาวะอักเสบรอบข้าง
บางทีฝีหนองจะ “ชี้” หรือโป่งขึ้นมาเป็นจุดขาวที่ผิว ซึ่งดูเหมือนสิวหัวขาวและอาจทำให้เข้าใจผิด แม้จะมีหนองอยู่ด้านบนแต่ก็ยังมีเชื้อและเศษเนื้อเยื่ออยู่ลึกลงไปอีก
โดยทั่วไป ฝีหนองจะเกิดเมื่อตัวแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังเข้าสู่ร่างกายทางแผลหรือเนื้อเยื่อเสียหาย แล้วส่งผลให้เกิดหนองในโพรงปิด ฝีหนองยังเกิดได้รอบรูขุมขนหรือบริเวณต่อมไขมันที่ถูกอุดตัน แบคทีเรีย Staphylococcus aureus คือสาเหตุที่พบบ่อย แต่ว่าเชื้อปรสิตบางชนิด ไวรัส หรือเชื้อราก็ทำให้เกิดฝีหนองได้เช่นกัน หากภูมิคุ้มกันบกพร่อง แม้จะเป็นแผลหรือบาดเจ็บเล็กน้อยก็มีความเสี่ยงติดเชื้อ
ความเสี่ยงการเกิดฝีหนองจะสูงขึ้นหากภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน HIV ธาลัสซีเมียชนิด S, โครห์น, ลำไส้อักเสบ, โรคเส้นเลือดส่วนปลาย, ผู้ได้รับยาสเตียรอยด์หรือคีโมเป็นเวลานาน, แผลไฟไหม้รุนแรง หรืออุบัติเหตุสาหัส, ผู้ดื่มสุราหนักและใช้สารเสพติดประเภทฉีด รวมถึงคนที่มีน้ำหนักเกิน มีระบบไหลเวียนไม่ดี สุขอนามัยไม่ดี สภาพแวดล้อมไม่สะอาด และสัมผัสกับการติดเชื้อที่ผิวหนังบางประเภท
ฝีหนองเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ที่พบบ่อยมักเป็นที่ผิวหนัง ฟันและเหงือก อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก หรือภายในร่างกาย
ประเภทที่พบบ่อยสุดคือฝีหนองที่ผิวหนัง เพราะผิวหนังเป็นแนวป้องกันแรกของร่างกายและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บบ่อย จุดที่พบฝีหนองประจำ ได้แก่ รักแร้ ขาหนีบ หลัง ก้น หรือบริเวณที่เหงื่อออกและมีความมันมาก
หากไม่รักษา ฝีหนองที่ผิวหนังอาจลุกลามเป็นเนื้อตาย (gangrene) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน หรือมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี กลุ่มนี้ยิ่งต้องระวัง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเนื้อตายจากฝีมากขึ้น
ฝีหรือฝีเล็ก ๆ ขนาดไม่เกิน 1 ซม. (0.5 นิ้ว) อาจใช้วิธีประคบร้อนหรือแผ่นความร้อนส่งเสริมให้หนองแตกเองได้ วางผ้าก๊อซสะอาดคั่นระหว่างแหล่งความร้อนกับแผล ติดไว้ 10–20 นาที วันละ 2–4 ครั้ง เป็นเวลาสูงสุดถึงสองสัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้ฝีแตกระบายหนองได้เอง หากแตกเองแล้วให้ล้างด้วยน้ำและสบู่ แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซสะอาด
อย่าบีบเหมือนสิวเด็ดขาด เพราะจะยิ่งกระจายเชื้อ หากเจาะฝีเองด้วยเข็มหรือของมีคม อาจทำให้เกิดบาดแผลลึกและเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดจนเสี่ยงติดเชื้อในเลือด (sepsis)
หากฝีไม่ดีขึ้นในสองสัปดาห์ หรือดูท่าจะแย่ลง ควรไปพบแพทย์ สัญญาณอันตรายคือขนาดเกิน 1 ซม. โตขึ้นเรื่อย ๆ, ไข้, มีเส้นแดงจากแผลที่อาจบ่งถึงเชื้อกำลังลาม โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรพบแพทย์ทันที
แพทย์จะทำหัตถการ I & D เจาะและระบายหนอง ศัลยแพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อขจัดเชื้อในร่างกาย และให้ยาฆ่าเชื้อสำหรับทาบริเวณแผล
เพื่อป้องกันฝีหนองที่ผิวหนังควรรักษาสุขอนามัยส่วนตัวให้ดี อ่านวิธีดูแลผิวตามสภาพผิว อาบน้ำหลังเหงื่อออกหรือเมื่อรู้สึกว่าผิวมัน ใส่เสื้อผ้าหลวม ระบายอากาศดี เช่นผ้าฝ้าย ผ้าลินิน เพื่อให้เหงื่อระเหย ถ้ามักเกิดฝีจากขนคุดหลังโกน แนะนำให้เปลี่ยนมาเล็มสั้นแทน หรือใช้เลเซอร์กำจัดขน อ่านวิธีดูแลขนตามร่างกาย
ฝีในช่องปากมักเกิดได้ที่เหงือก ในฟัน หรือกระดูกที่ยึดฟัน เชื้อแบคทีเรียเข้าทางร่องฟันกับเหงือก หรือเจริญในโพรงเยื่อฟัน เมื่อเกิดปัญหา คุณอาจมีอาการต่อไปนี้:
ฝีในช่องปากต้องรีบไปพบหมอฟัน เพราะไม่หายเอง ต้องให้มืออาชีพระบายหนอง หากปล่อยไว้นาน เส้นประสาทในฟันอาจตายหรือขาดเลือดชั่วคราวจนฟันร่วง หากเส้นประสาทตาย อาจเจ็บน้อยลงเพราะไม่มีความรู้สึก แต่หากฝีไม่ถูกจัดการ เชื้อสามารถลามไปเนื้อเยื่อรอบข้างจนกลายเป็นการติดเชื้อรุนแรง
ขึ้นกับตำแหน่งของฝี หมอฟันอาจเลือกกรีดระบายหนอง รักษารากฟัน หรือถอนเนื้อเยื่อที่เสียหายออก (ในเคสหนัก) หลังเคลียร์ฝีแล้วต้องกินยาปฏิชีวนะ และใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
เคล็ดลับป้องกันฝีในช่องปาก:
ฝีหนองบริเวณช่องคลอดมักพบในรอยพับที่อวัยวะเพศนอกหรือบนแคม ส่วนใหญ่มักเกิดจากแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งปกติมีอยู่ในจุลินทรีย์ผิวหนัง แต่เมื่อร่างกายเหนื่อยหรือภูมิคุ้มกันต่ำ S. aureus จะก่อปัญหาโดยเข้ารูขุมขนหรือต่อมไขมันหลังโกนหรือมีเหงื่อสะสม ฝีลักษณะนี้จะเหมือนก้อนเล็ก ๆ เจ็บในเนื้อนุ่ม ตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่หายเอง แต่หากโตหรือเกินสองสัปดาห์ต้องให้แพทย์เจาะ หรือระบายหนอง
โรคเริมที่อวัยวะเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดมีลักษณะคล้ายกัน เช่น มีตุ่มหัวเหลืองเล็ก ๆ แต่ตุ่มเริมมักเล็กและเป็นกลุ่ม หากไม่แน่ใจว่าตุ่มที่อวัยวะเพศคืออะไรควรพบแพทย์
สามารถประคบร้อนช่วยให้ฝีแตกเองได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์
ป้องกันฝีบริเวณนี้ได้ด้วยการรักษาความสะอาดพื้นที่ส่วนตัว ใส่ชุดชั้นในหลวม ระบายอากาศได้ดี ไม่ใช้เสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูร่วมกับใคร เพราะฝีที่ช่องคลอดสามารถติดต่อกันได้
ฝีหนองภายในพบได้น้อยกว่าฝีทั่วไป แต่เป็นอันตรายและอาจคร่าชีวิตได้
ตำแหน่งที่พบบ่อยมีดังนี้:
ฝีประเภทนี้มักเกิดหลังผ่าตัด อุบัติเหตุ หรือการติดเชื้อในเนื้อเยื่อรอบข้าง อาจเกิดได้จากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ซึ่งต่างจากฝีที่ผิวหนัง ฝีภายในสังเกตยากมาก
อาการจะขึ้นกับตำแหน่งฝี ฝีในช่องท้อง อาจมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง; ฝีที่ไขสันหลัง ทำให้ไข้ ปวดหลัง มีปัญหาทางระบบประสาท และ ฝีในสมอง ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ สายตาแย่ลง สับสนและมีปัญหาด้านการจดจำ
ฝีสมองหรือการติดเชื้อในสมองนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ปัจจุบันเด็กเล็กพบฝีสมองมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามาจากการติดเชื้อหูชั้นกลางและไวรัสทางเดินหายใจที่ลุกลามเข้าสมอง
ฝีภายในต้องรีบรักษา เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ติดเชื้อหรือเกิดความเสียหายต่ออวัยวะ ระบบประสาท หรือสมองได้
การรักษาขึ้นกับตำแหน่ง แต่โดยทั่วไปใช้ยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อ และบางกรณีต้องผ่าตัดเล็กเพื่อระบายหนองหรือเอาเนื้อเยื่ออักเสบออก
สำหรับการป้องกันฝีตามอวัยวะภายในอย่างสมองหรือไขสันหลังเราไม่สามารถควบคุมได้มากนัก ควรดูแลสุขภาพโดยรวมและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์หลังผ่าตัดหรืออุบัติเหตุ รวมถึงหากมีอาการผิดปกติให้พบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
ฝีหนองขนาดเล็กที่ผิวหนังหรือในช่องคลอดบางครั้งอาจหายเองหรือใช้การประคบร้อนช่วย แต่ถ้าฝีใหญ่หรือร่วมกับไข้ เส้นแดง ควรให้แพทย์ดูแล
ฝีในช่องปากหรือฝีภายในมักไม่หายได้ด้วยตัวเอง และควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากฝีแตกเอง อาจกระจายเชื้อสู่อวัยวะข้างเคียงและกระแสเลือดจนเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิม
ฝีหนองเกิดได้ด้วยเหตุหลายอย่าง สาเหตุหลักคือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แต่ฝีผิวหนังมักเกิดจากอนามัยที่ไม่ดี โกนขนด้วยใบมีดทู่ หรือบาดเจ็บเล็ก ๆ หากคุณเป็นฝีบ่อย ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
แม้ฝีหนองดูไม่น่ากลัวในช่วงแรก แต่มันอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง หากมีฝีหนองที่ใดในร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อรุนแรง
ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้วตอนนี้: