ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

เข้าใจฝีหนอง: ชนิดที่พบบ่อย การป้องกัน และการรักษา

หากคุณเคยมีฝีหนองที่ผิวหนัง เหงือก หรือส่วนอื่น ๆ ในหรือบนร่างกาย คุณจะทราบดีว่ามันทั้งเจ็บปวดและอันตราย และเพราะฝีหนองมักมีลักษณะคล้ายสิวหรือฝี คุณอาจรู้สึกอยากบีบหรือแตกมัน แต่ก่อนจะทำแบบนั้น โปรดอ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับฝีหนองอย่างปลอดภัย และเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรบีบฝีหนองด้วยตัวเอง

ประเภทของฝี การป้องกัน และการรักษา ให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดของฝีหนองและการรับมือ

ฝีหนองอาจเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ซึ่งเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยแผล ขนคุด หรือเนื้อเยื่อที่เสียหาย ภูมิคุ้มกันของคุณจะรีบจัดการกับการติดเชื้อ และขณะเดียวกันเนื้อเยื่อบางส่วนจะตายไป ก่อให้เกิดโพรงเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหนองอยู่กลางเนื้อเยื่อที่อักเสบ

เช่นเดียวกับฝี (หรือ furuncle) ที่มักเกิดจากการติดเชื้อที่รูขุมขน ฝีหนองคือลักษณะเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อซึ่งเป็นโพรงเกิดได้ทุกที่ในหรือนอกร่างกาย แต่ฝีหนองมักใหญ่และลึกกว่า และหากไม่ถูกดูแลอย่างถูกต้องก็เสี่ยงกระจายเชื้อ การเกิดฝีเล็กๆ (ขนาดไม่เกิน 1 ซม./0.5 นิ้ว) อาจหายได้เอง แต่อาจโตขึ้นเป็นฝีหนองหากถูกรบกวน การบีบหรือกดฝีอาจทำให้เชื้อโรคลึกลงในเนื้อเยื่อและเสี่ยงเข้าสู่กระแสเลือด จึงไม่ควรพยายามเจาะหรือระบายฝีหนองเอง ทางที่ดีที่สุดคือให้แพทย์เป็นผู้ดูแลด้วยเทคนิค I & D (Incision and Drainage) ที่ถูกสุขลักษณะ

ฝีหนองหน้าตาเป็นอย่างไร?

ฝีหนองจะมีลักษณะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิด โดยทั่วไปจะเห็นเป็นก้อนแดงหรือชมพูที่นูนตึง กดแล้วเจ็บ มีความยืดหยุ่น กึ่งแข็งคล้ายฟองน้ำ เนื้อในก็คือหนองที่เกิดจากเซลล์ตาย เชื้อแบคทีเรีย และเศษเนื้อเยื่อ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะสร้างหนองมากขึ้นเมื่อพยายามต่อสู้กับการติดเชื้อ ทำให้เกิดแรงดันใต้ผิวหนังและภาวะอักเสบรอบข้าง

บางทีฝีหนองจะ “ชี้” หรือโป่งขึ้นมาเป็นจุดขาวที่ผิว ซึ่งดูเหมือนสิวหัวขาวและอาจทำให้เข้าใจผิด แม้จะมีหนองอยู่ด้านบนแต่ก็ยังมีเชื้อและเศษเนื้อเยื่ออยู่ลึกลงไปอีก

ทำไมฝีหนองจึงเกิดขึ้น?

โดยทั่วไป ฝีหนองจะเกิดเมื่อตัวแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังเข้าสู่ร่างกายทางแผลหรือเนื้อเยื่อเสียหาย แล้วส่งผลให้เกิดหนองในโพรงปิด ฝีหนองยังเกิดได้รอบรูขุมขนหรือบริเวณต่อมไขมันที่ถูกอุดตัน แบคทีเรีย Staphylococcus aureus คือสาเหตุที่พบบ่อย แต่ว่าเชื้อปรสิตบางชนิด ไวรัส หรือเชื้อราก็ทำให้เกิดฝีหนองได้เช่นกัน หากภูมิคุ้มกันบกพร่อง แม้จะเป็นแผลหรือบาดเจ็บเล็กน้อยก็มีความเสี่ยงติดเชื้อ

ความเสี่ยงการเกิดฝีหนองจะสูงขึ้นหากภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน HIV ธาลัสซีเมียชนิด S, โครห์น, ลำไส้อักเสบ, โรคเส้นเลือดส่วนปลาย, ผู้ได้รับยาสเตียรอยด์หรือคีโมเป็นเวลานาน, แผลไฟไหม้รุนแรง หรืออุบัติเหตุสาหัส, ผู้ดื่มสุราหนักและใช้สารเสพติดประเภทฉีด รวมถึงคนที่มีน้ำหนักเกิน มีระบบไหลเวียนไม่ดี สุขอนามัยไม่ดี สภาพแวดล้อมไม่สะอาด และสัมผัสกับการติดเชื้อที่ผิวหนังบางประเภท

ชนิดของฝีหนอง

ฝีหนองเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ที่พบบ่อยมักเป็นที่ผิวหนัง ฟันและเหงือก อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก หรือภายในร่างกาย

ฝีหนองที่ผิวหนัง

ประเภทที่พบบ่อยสุดคือฝีหนองที่ผิวหนัง เพราะผิวหนังเป็นแนวป้องกันแรกของร่างกายและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บบ่อย จุดที่พบฝีหนองประจำ ได้แก่ รักแร้ ขาหนีบ หลัง ก้น หรือบริเวณที่เหงื่อออกและมีความมันมาก

หากไม่รักษา ฝีหนองที่ผิวหนังอาจลุกลามเป็นเนื้อตาย (gangrene) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน หรือมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี กลุ่มนี้ยิ่งต้องระวัง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเนื้อตายจากฝีมากขึ้น

รักษาฝีหนองที่ผิวหนังอย่างไร?

ฝีหรือฝีเล็ก ๆ ขนาดไม่เกิน 1 ซม. (0.5 นิ้ว) อาจใช้วิธีประคบร้อนหรือแผ่นความร้อนส่งเสริมให้หนองแตกเองได้ วางผ้าก๊อซสะอาดคั่นระหว่างแหล่งความร้อนกับแผล ติดไว้ 10–20 นาที วันละ 2–4 ครั้ง เป็นเวลาสูงสุดถึงสองสัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้ฝีแตกระบายหนองได้เอง หากแตกเองแล้วให้ล้างด้วยน้ำและสบู่ แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซสะอาด

คู่มือทีละขั้นตอนในการดูแลฝีหนองที่ผิวหนัง พร้อมวิธีที่ปลอดภัยและข้อควรระวังสำคัญ

อย่าบีบเหมือนสิวเด็ดขาด เพราะจะยิ่งกระจายเชื้อ หากเจาะฝีเองด้วยเข็มหรือของมีคม อาจทำให้เกิดบาดแผลลึกและเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดจนเสี่ยงติดเชื้อในเลือด (sepsis)

หากฝีไม่ดีขึ้นในสองสัปดาห์ หรือดูท่าจะแย่ลง ควรไปพบแพทย์ สัญญาณอันตรายคือขนาดเกิน 1 ซม. โตขึ้นเรื่อย ๆ, ไข้, มีเส้นแดงจากแผลที่อาจบ่งถึงเชื้อกำลังลาม โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรพบแพทย์ทันที

แพทย์จะทำหัตถการ I & D เจาะและระบายหนอง ศัลยแพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อขจัดเชื้อในร่างกาย และให้ยาฆ่าเชื้อสำหรับทาบริเวณแผล

ป้องกันฝีหนองที่ผิวหนังอย่างไร?

เพื่อป้องกันฝีหนองที่ผิวหนังควรรักษาสุขอนามัยส่วนตัวให้ดี อ่านวิธีดูแลผิวตามสภาพผิว อาบน้ำหลังเหงื่อออกหรือเมื่อรู้สึกว่าผิวมัน ใส่เสื้อผ้าหลวม ระบายอากาศดี เช่นผ้าฝ้าย ผ้าลินิน เพื่อให้เหงื่อระเหย ถ้ามักเกิดฝีจากขนคุดหลังโกน แนะนำให้เปลี่ยนมาเล็มสั้นแทน หรือใช้เลเซอร์กำจัดขน อ่านวิธีดูแลขนตามร่างกาย

ฝีหนองที่ฟันและเหงือก

ฝีในช่องปากมักเกิดได้ที่เหงือก ในฟัน หรือกระดูกที่ยึดฟัน เชื้อแบคทีเรียเข้าทางร่องฟันกับเหงือก หรือเจริญในโพรงเยื่อฟัน เมื่อเกิดปัญหา คุณอาจมีอาการต่อไปนี้:

  • ปวดตุบ ๆ บริเวณที่เป็น
  • บวมบริเวณแผล
  • ไวต่อสัมผัส
  • ไข้
  • มีกลิ่นหรือรสไม่พึงประสงค์ในปาก

ฝีในช่องปากต้องรีบไปพบหมอฟัน เพราะไม่หายเอง ต้องให้มืออาชีพระบายหนอง หากปล่อยไว้นาน เส้นประสาทในฟันอาจตายหรือขาดเลือดชั่วคราวจนฟันร่วง หากเส้นประสาทตาย อาจเจ็บน้อยลงเพราะไม่มีความรู้สึก แต่หากฝีไม่ถูกจัดการ เชื้อสามารถลามไปเนื้อเยื่อรอบข้างจนกลายเป็นการติดเชื้อรุนแรง

Advertisement


ขึ้นกับตำแหน่งของฝี หมอฟันอาจเลือกกรีดระบายหนอง รักษารากฟัน หรือถอนเนื้อเยื่อที่เสียหายออก (ในเคสหนัก) หลังเคลียร์ฝีแล้วต้องกินยาปฏิชีวนะ และใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ

ป้องกันฝีหนองในช่องปากทำอย่างไร?

เคล็ดลับป้องกันฝีในช่องปาก:

  • รักษาสุขอนามัย ช่องปาก ให้ดี
  • แปรงฟันขั้นต่ำวันละ 2 ครั้ง พร้อมใช้ไหมขัดฟัน
  • ไปหาหมอฟันสม่ำเสมอเพื่อตรวจและขจัดคราบ
  • งดสูบบุหรี่ เพราะคนสูบมีความเสี่ยงติดฝีในช่องปากและผลแทรกซ้อนมากขึ้น
  • ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดน้ำตาลเพื่อป้องกันคราบฟัน


ฝีหนองที่อวัยวะเพศ

ฝีหนองบริเวณช่องคลอดมักพบในรอยพับที่อวัยวะเพศนอกหรือบนแคม ส่วนใหญ่มักเกิดจากแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งปกติมีอยู่ในจุลินทรีย์ผิวหนัง แต่เมื่อร่างกายเหนื่อยหรือภูมิคุ้มกันต่ำ S. aureus จะก่อปัญหาโดยเข้ารูขุมขนหรือต่อมไขมันหลังโกนหรือมีเหงื่อสะสม ฝีลักษณะนี้จะเหมือนก้อนเล็ก ๆ เจ็บในเนื้อนุ่ม ตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่หายเอง แต่หากโตหรือเกินสองสัปดาห์ต้องให้แพทย์เจาะ หรือระบายหนอง

โรคเริมที่อวัยวะเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดมีลักษณะคล้ายกัน เช่น มีตุ่มหัวเหลืองเล็ก ๆ แต่ตุ่มเริมมักเล็กและเป็นกลุ่ม หากไม่แน่ใจว่าตุ่มที่อวัยวะเพศคืออะไรควรพบแพทย์

รักษา/ป้องกันฝีหนองที่ช่องคลอดอย่างไร?

สามารถประคบร้อนช่วยให้ฝีแตกเองได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์

ป้องกันฝีบริเวณนี้ได้ด้วยการรักษาความสะอาดพื้นที่ส่วนตัว ใส่ชุดชั้นในหลวม ระบายอากาศได้ดี ไม่ใช้เสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูร่วมกับใคร เพราะฝีที่ช่องคลอดสามารถติดต่อกันได้

ฝีหนองภายในร่างกาย

ฝีหนองภายในพบได้น้อยกว่าฝีทั่วไป แต่เป็นอันตรายและอาจคร่าชีวิตได้

ตำแหน่งที่พบบ่อยมีดังนี้:

  • อวัยวะในช่องท้อง เช่น ปอด ไต ตับ ฯลฯ
  • ไขสันหลัง
  • สมอง

ฝีประเภทนี้มักเกิดหลังผ่าตัด อุบัติเหตุ หรือการติดเชื้อในเนื้อเยื่อรอบข้าง อาจเกิดได้จากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ซึ่งต่างจากฝีที่ผิวหนัง ฝีภายในสังเกตยากมาก

อาการจะขึ้นกับตำแหน่งฝี ฝีในช่องท้อง อาจมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง; ฝีที่ไขสันหลัง ทำให้ไข้ ปวดหลัง มีปัญหาทางระบบประสาท และ ฝีในสมอง ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ สายตาแย่ลง สับสนและมีปัญหาด้านการจดจำ

ฝีสมองหรือการติดเชื้อในสมองนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ปัจจุบันเด็กเล็กพบฝีสมองมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามาจากการติดเชื้อหูชั้นกลางและไวรัสทางเดินหายใจที่ลุกลามเข้าสมอง

รักษาฝีหนองภายในอย่างไร?

ฝีภายในต้องรีบรักษา เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ติดเชื้อหรือเกิดความเสียหายต่ออวัยวะ ระบบประสาท หรือสมองได้

การรักษาขึ้นกับตำแหน่ง แต่โดยทั่วไปใช้ยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อ และบางกรณีต้องผ่าตัดเล็กเพื่อระบายหนองหรือเอาเนื้อเยื่ออักเสบออก

สำหรับการป้องกันฝีตามอวัยวะภายในอย่างสมองหรือไขสันหลังเราไม่สามารถควบคุมได้มากนัก ควรดูแลสุขภาพโดยรวมและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์หลังผ่าตัดหรืออุบัติเหตุ รวมถึงหากมีอาการผิดปกติให้พบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

ฝีหนองหายเองได้ไหม?

ฝีหนองขนาดเล็กที่ผิวหนังหรือในช่องคลอดบางครั้งอาจหายเองหรือใช้การประคบร้อนช่วย แต่ถ้าฝีใหญ่หรือร่วมกับไข้ เส้นแดง ควรให้แพทย์ดูแล

ฝีในช่องปากหรือฝีภายในมักไม่หายได้ด้วยตัวเอง และควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากฝีแตกเอง อาจกระจายเชื้อสู่อวัยวะข้างเคียงและกระแสเลือดจนเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิม

ทำไมเป็นฝีหนองซ้ำ ๆ?

ฝีหนองเกิดได้ด้วยเหตุหลายอย่าง สาเหตุหลักคือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แต่ฝีผิวหนังมักเกิดจากอนามัยที่ไม่ดี โกนขนด้วยใบมีดทู่ หรือบาดเจ็บเล็ก ๆ หากคุณเป็นฝีบ่อย ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

บทสรุป

แม้ฝีหนองดูไม่น่ากลัวในช่วงแรก แต่มันอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง หากมีฝีหนองที่ใดในร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อรุนแรง

ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้วตอนนี้:

ดาวน์โหลดจาก App Store

รับแอปจาก Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.verywellhealth.com/draining-an-abscess-1124138
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/22876-abscess
https://healthnews.com/news/brain-abscess-cases-increased-among-children-in-2022-23/
https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/intraabdominal-abscess
https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/cerebral-abscess
https://www.webmd.com/a-to-z-guides/abscess
Advertisement


ทุกคนที่ต้องรับมือกับผมมัน ย่อมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญและทำให้ไม่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่แค่ความน่ารำคาญเท่านั้น หนังศีรษะมันมีแนวโน้มจะระคายเคือง มีรังแค และปัญหาผิวหนังอื่น ๆ หากอยากขจัดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ คุณต้องรู้ถึงต้นตอของปัญหา มาดูกันว่าอะไรทำให้ผมมันและเรียนรู้ 9 วิธีลดการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะให้น้อยลง
หัวนมเจ็บไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ไม่ว่าหญิงหรือชายก็สามารถประสบอาการเจ็บและระคายเคืองในบริเวณที่ไม่สะดวกนี้ได้ทั้งนั้น
ภาวะไทรอยด์ต่ำเป็นโรคต่อมไทรอยด์ที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคนนับล้านทั่วโลก อาการอย่างเช่น น้ำหนักลดยาก ผมร่วง ผิวหมองสมองล้า และอีกหลายอย่างอาจทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีดูแลภาวะนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะไทรอยด์ต่ำ ทั้งสาเหตุและอาการต่างๆ