ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

ออกแบบรูทีนดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

ผิวเปล่งปลั่งคือสัญลักษณ์ของสุขภาพที่ดี แม้แต่คนที่สุขภาพแข็งแรงที่สุดก็ยังมีปัญหาผิวพรรณได้เป็นครั้งคราว ในการรับมือกับปัญหาเหล่านี้ คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ตอบโจทย์สภาพผิวหรือปัญหาผิวเฉพาะตัวของคุณได้

สร้างรูทีนดูแลผิวตามสภาพผิวของคุณ

รูทีนดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญในการบำรุงและปกป้องผิวของคุณ หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผิด หรือดูแลมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการแพ้ และอักเสบ ในบทความนี้ เราขอแนะนำพื้นฐานการดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ประเภทของผิวหน้า

ถ้าคุณติดตามดาราหรือนิตยสารไลฟ์สไตล์ ก็คงเคยเห็นเทรนด์การดูแลผิวผ่านตาบ้างแล้ว ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ราคาสูงของแบรนด์ดังจนถึงอินฟลูเอนเซอร์ที่การันตีวิธีแก้ปัญหาผิวแบบสำเร็จรูป แต่จริง ๆ แล้วการดูแลผิวคืออะไร และสำคัญอย่างไร?

โดยปกติโฆษณามักเน้นการดูแลผิวเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ และ เดโคเล็ตเต้ (ช่วงอก) แต่ก่อนจะพูดถึงการดูแลผิว เราต้องรู้จักประเภทผิวเสียก่อน มาเริ่มจากการจำแนกผิวหน้ากัน

ผิวหน้าถูกแบ่งเป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ ผิวปกติ, ผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย, ผิวมัน และ ผิวผสม การรู้ว่าคุณมีผิวประเภทใดจะช่วยให้คุณดูแลผิวได้อย่างเหมาะสม และอย่าลืมว่าประเภทผิวในวันนี้ อาจไม่ใช่ประเภทผิวในอนาคตของคุณก็ได้


ผิวหนังคืออวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต การบาดเจ็บ และภัยอื่น ๆ อีกทั้งยังช่วยขจัดสารพิษได้ทุกวัน เมื่อผิวหนังขับไขมันซีบัม (ของเหลวคล้ายไขมันที่ต่อมไขมันผลิตขึ้น) สารพิษที่สะสม และ  เหงื่อเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกาย

เนื่องจากผิวหนังต้องทำหน้าที่เหล่านี้จึงทำให้เกิดปัญหาผิวได้เป็นเรื่องปกติ เช่น คุณอาจสังเกตได้ว่าถึงแม้ผิวจะเป็นผิวปกติ แต่จะมันกว่าปกติก่อนรอบเดือนจะมา ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

อ่านเพิ่มเติม: ฮอร์โมนมีผลต่อคุณอย่างไร

มาทำความรู้จักกับ 5 ประเภทของผิวหน้า

ผิวปกติ

ผิวปกติจะดูสุขภาพดีและสะอาด ผลิตซีบัมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเติมความชุ่มชื้น ผิวจะมีค่าความเป็นกรดอ่อน ๆ (อยู่ระหว่าง 4.7 ถึง 5.75) หากคุณมีผิวปกติ รูขุมขนจะละเอียด ไม่มีหรือมีปัญหาผิวน้อยมาก ไม่แห้ง ไม่เกิดอาการระคายเคือง

ผิวแห้ง

ผิวแห้งผลิตซีบัมน้อยกว่าที่ควร ทำให้เกิดผิวลอก แดง ผิวตึง และริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวขาดไขมันธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและปกป้องผิว ในกรณีรุนแรงอาจเกิดรอยแตก มีอาการคันหรือแสบผิวได้

ผิวมัน

ผิวมันผลิตซีบัมมากเกินไปจนทำให้ผิวดูมันเยิ้ม หากคุณมีผิวมัน รูขุมขนจะกว้าง เห็นชัด และมักมีปัญหาสิวหัวดำ สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบได้บ่อย แม้จะมีหลายสาเหตุที่กระตุ้นให้ผิวผลิตซีบัมมาก ส่วนใหญ่มักมาจากผิวขาดน้ำ ร่างกายจึงผลิตซีบัมชดเชย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิวและวิธีดูแล

ผิวผสม

ผิวประเภทนี้ดูแลยากที่สุดเพราะบางจุด โดยเฉพาะ T-zone (หน้าผาก จมูก คาง) จะมันมาก แต่บางส่วนอย่างแก้มกลับแห้ง ทำให้รู้สึกว่าผิวมันและแห้งปนกัน ต้องมีการดูแลที่แตกต่างสำหรับแต่ละส่วนของผิว

ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายอาจเป็นทั้งผิวแห้งหรือมัน จุดเด่นคือผิวไวต่อผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มักเกิดอาการระคายเคือง ผื่นแดงหรือแพ้ได้ง่าย ผิวประเภทนี้จะตอบสนองต่อปัจจัยภายนอกเร็วและบางครั้งผิวชั้นปกป้องอ่อนแอลง ทำให้การดูแลซับซ้อนยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์สำคัญสำหรับรูทีนดูแลผิวเฉพาะตัวของคุณ


สิ่งจำเป็นในการดูแลผิว

สุขภาพผิวสะท้อนสุขภาพร่างกายของคุณ ผิวติดเชื้อ ระคายเคือง หรือผื่นแดง ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ผิวโดยตรง เช่น อาจมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ หรืออาการ ‘ลำไส้รั่ว’ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบ สิว หรือผื่นผิวหนังได้

หากรู้สึกไม่สบายผิว มีปัญหาสิวเรื้อรัง หรืออาการผิว เช่น ผื่นผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติภายในร่างกาย ส่วนคนที่สุขภาพแข็งแรงก็ยังอาจมีปัญหาผิวได้ ด้วยปัจจัยจากมลพิษ เสื้อผ้ารัดแน่น การแต่งหน้า หรือสัมผัสใบหน้าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ระบบไมโครไบโอมของผิวถูกรบกวน

พัฒนาโครงสร้างการดูแลผิวตามสภาพผิวของคุณ

อาจสังเกตว่าผลิตภัณฑ์ ‘จำเป็น’ ในโฆษณามักมีมากมายหรือแม้แต่ทรีตเมนต์สปา ไม่ต้องหลงเชื่อทั้งหมด แบรนด์เครื่องสำอางมักสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อขาย ทั้งที่จริงแล้วร่างกายเราไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด

โดยทั่วไป รูทีนการดูแลผิวประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักเท่านั้น:

  • คลีนเซอร์
  • มอยซ์เจอไรเซอร์
  • ครีมกันแดด (SPF)

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ใกล้เคียงผิวเพื่อไม่ให้เสียสมดุลความเป็นกรด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง เพราะจะเป็นด่างจนเกินไป และเปลี่ยนสครับผิวหยาบ ๆ เป็นตัวเลือกที่อ่อนโยนกว่า เช่น โคลน เอสเซนส์ผลัดเซลล์ หรือมาสก์ธรรมชาติ

Advertisement


เมื่อหา 3 ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวได้แล้ว คุณสามารถเพิ่มกิจวัตรเล็ก ๆ เพิ่มเติมเพื่อเสริมให้ดูแลผิวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ผิวปกติ ใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ pH สมดุล มอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา และครีมกันแดดพื้นฐาน (SPF 30 ขึ้นไป) เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่รบกวนไมโครไบโอมบนผิว

ผิวแห้ง อาจตั้งแต่แค่รู้สึกตึง ไปจนถึงแห้งคันหรือแตกลอกง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมที่ทำให้ผิวแห้ง เลือกมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีอโลเวรา กรดแลคติก หรือไฮยาลูรอนิค เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน

ผิวมัน ดูแลยากด้วยซีบัมที่มากกว่าปกติ ทำให้เครื่องสำอางหลุดและผลิตภัณฑ์บางตัวอุดตันรูขุมขนได้ง่าย ความจริงคือผิวมันก็มักจะได้ประโยชน์จากมอยซ์เจอไรเซอร์เช่นกัน — จำไว้ว่าเมื่อผิวแห้งเกินไป ร่างกายจะผลิตน้ำมันชดเชย มากเกินพอดี คุณควรหลีกเลี่ยงคลีนเซอร์ที่แรงเกินไปจนผิวแห้งตึง และมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติเติมน้ำ

เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่เปลี่ยน pH ตามธรรมชาติ ผู้ที่มีผิวมันมักมีปัญหาสิวและรอยสิวได้ง่าย ควรดูแลอย่างอ่อนโยนที่สุด อย่าบีบสิวหรือเกาแผลเพราะจะยิ่งอักเสบ

บางคนชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก (BHA) หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ในการผลัดเซลล์และทำความสะอาดรูขุมขนลึก อีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ผลดีในบางคนคือไนอาซินาไมด์ — รูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 ที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ผิวใส ลดรอยตำหนิ ทั้งนี้ทุกผิวมันไม่ได้เหมือนกัน ควรทดสอบเฉพาะจุดก่อนใช้ทั่วใบหน้า และค่อย ๆ ใช้ดูผลใน 2-3 สัปดาห์

ผิวแพ้ง่าย เช่นเดียวกับผิวปกติและผิวแห้ง ควรมีครบ 3 ผลิตภัณฑ์พื้นฐาน แต่ต้องใส่ใจส่วนผสมเป็นพิเศษ ผิวแพ้ง่ายอาจไวต่อซิลิโคน พาราเบน ซัลเฟต แอลกอฮอล์ และน้ำหอม เสมอไปว่าส่วนผสมธรรมชาติก็อาจระคายเคืองได้เช่นกัน

ทางที่ดีควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ


ครีมกันแดดสำคัญมากสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะแสง UV และการไหม้จากแดดทำร้ายผิวที่เปราะบางได้ ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวแดง-อักเสบ ได้แก่ ชาเขียว, อโลเวรา, คาโมมายล์ และ บีซาโบลอล (สารสกัดจาก German chamomile)

ผิวผสม หากผิวมันบางส่วนและแห้งบางส่วน แนะนำให้ผสมผสาน 2 รูทีนดูแลผิว

ใส่ใจดูแลผิวจากภายใน

สภาพผิวสะท้อนภาวะภายในร่างกาย หากร่างกายอักเสบหรือขาดการดูแล ผิวคุณก็จะส่งสัญญาณผ่านปัญหา ถึงเวลาดูแลตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก

โภชนาการ

ปัจจุบันมีคำแนะนำตามอินเทอร์เน็ตมากมายว่าควรงดอาหารบางกลุ่มเพื่อผิวเปล่งปลั่ง จริงอยู่ที่บางรายอาจดีขึ้นหากลดกลูเตนหรือผลิตภัณฑ์นมสำหรับผู้ที่แพ้ หรือมีปัญหาลำไส้เท่านั้น มิฉะนั้นไม่ควรงดอาหารเหล่านี้และควรได้รับสารอาหารครบถ้วน

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ไขมันทรานส์ และน้ำตาลสูง หากกินลูกอมแล้วสิวขึ้นทันที อาจเกี่ยวกับปัญหาการย่อยอาหาร

ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการกินอาหารที่ สมดุลและยั่งยืน เติมสารอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วน หากคุณรับประทานอาหารที่มีคุณค่าพอเพียง ได้รับสารอาหารเพียงพอ ขนมหรือของหวานเล็กน้อยก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่ (ยกเว้นว่ามีอาการแพ้อาหาร)

อาหารที่เป็นมิตรกับผิวต้องมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารครบถ้วน ควรรับโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตเหมาะสม ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ดื่มน้ำเปล่า และเครื่องดื่มอุดมแร่ธาตุ เช่น ชาสมุนไพร น้ำมะพร้าว น้ำผลไม้ออร์แกนิก และสมูทตี้

การออกกำลังกาย

การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำมีบทบาทต่อทั้งสุขภาพกาย อารมณ์ และสุขภาพผิว เมื่อเราออกกำลังกาย เหงื่อจะช่วยขจัดสารพิษและสิ่งสกปรกออกจากผิว ส่งเสริมการผลัดเซลล์ใหม่ ผิวจึงดูสดใส ยืดหยุ่น อ่อนเยาว์ ควรหากิจกรรมหรือกีฬาที่คุณชอบ ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะเห็นผลดีต่อผิว

ก่อนออกกำลังกายควรเช็ดเครื่องสำอางให้หมด เพราะเหงื่อจะทำให้รูขุมขนขยาย อุดตันได้ง่าย หลังออกกำลังกายควรล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น โดยที่ถ้าไม่ได้แต่งหน้า ไม่จำเป็นต้องใช้คลีนเซอร์เพิ่มเติม

การจัดการความเครียด

ความเครียดเป็นสาเหตุใหญ่ของการอักเสบ และการอักเสบก่อให้เกิดปัญหาผิวมากมาย เมื่อร่างกายเครียดจะหลั่งคอร์ติซอล ทำให้ระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สิวอักเสบได้ง่าย พร้อมกันนี้ร่างกายยังต้องการแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้นแต่เรากลับมักจะเลือกของหวานหรือฟาสต์ฟู้ดเพื่อปลอบใจ แต่ละคนควรหาวิธีรับมือกับความเครียดของตัวเอง เช่น พักสั้น ๆ เดินเล่น ฝึกหายใจ หรือนั่งสมาธิ คุณเหมาะกับแบบไหนที่สุด?

การนอนหลับ

การนอนคือรากฐานของสุขภาพดี มีประโยชน์มากมาย ตั้งแต่การรับมือกับความเครียดไปจนถึงผิวดูอ่อนเยาว์ หลังนอนหลับไม่เพียงพอ ผิวจะดูแก่ลงทันที แต่พอได้พักผ่อนเต็มที่ เราทั้งรู้สึกดีและผิวดูสดใส เพราะร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองในระดับเซลล์ เพื่อการพักผ่อนที่มีคุณภาพ เริ่มจำกัดแสง เสียง และสิ่งรบกวนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน และให้เวลากับตัวเองพอสมควรบนเตียงเพื่อให้ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่น

ไม่มีสูตรวิเศษสำหรับผิวที่ใส สุขภาพดี ชุ่มชื้น เพราะแต่ละคนแตกต่างกัน คุณอาจต้องลองหลายวิธีเพื่อหาสูตรที่เหมาะกับคุณจริง ๆ หากตอนนี้ผิวของคุณมีปัญหา อย่าเพิ่งท้อ ร่างกายเราปรับตัวตลอดเวลา เริ่มเปลี่ยนจากเรื่องเล็ก ๆ แล้วทำต่อเนื่องจนเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

คุณสามารถติดตามรอบเดือนด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้ที่นี่:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.healthline.com/health/skin-care-routine-for-oily-skin-2#_noHeaderPrefixedContent
https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-basics/dry/dermatologists-tips-relieve-dry-skin
https://bsj.berkeley.edu/skincare-how-much-should-we-really-care/
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11525176/
Advertisement


การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือ UTI คือการติดเชื้อแบคทีเรียที่มักเกิดจากแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารที่เดินทางจากทวารหนักเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ ภาวะนี้ก่อให้เกิดความไม่สบายและเจ็บปวด และหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ความเสียหายของไตได้
มนุษย์มีความต้องการโดยกำเนิดในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงการสัมผัสทางกายภาพ การสัมผัสมีความสำคัญต่อสุขภาวะของผู้หญิง ช่วงที่โควิด-19 บังคับให้เว้นระยะห่างทางสังคม หลายคนต้องเผชิญกับภาวะขาดสัมผัส จะมีผลกระทบอะไรบ้าง และสามารถชดเชยสิ่งที่ขาดนี้ได้หรือไม่?
เบาหวานเป็นภาวะสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อชีวิตซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก ผู้หญิงที่เป็นเบาหวานจะไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เซลล์ของร่างกายดูดซึมกลูโคสจากกระแสเลือดและเปลี่ยนเป็นพลังงาน การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานสำหรับตัวเองหรือคนที่รักอาจเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สามารถดูแลจัดการภาวะนี้และมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน