การคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้หญิงควบคุมการวางแผนครอบครัวและสุขภาพการเจริญพันธุ์ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงการทำงานของฮอร์โมนร่างกายไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย อาจมีช่วงเวลาที่ผู้หญิงต้องการหยุดพักหรือเลิกใช้ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนโดยสิ้นเชิง
ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนไม่ได้ใช้เพื่อคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แพทย์อาจสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเช่น สิว เลือดออกมาก หรือปวดประจำเดือน การหายาคุมฮอร์โมนที่เหมาะกับแต่ละคนอาจยาก เพราะแต่ละคนมีอาการข้างเคียงแตกต่างกันไป บางครั้งข้อเสียอาจมากกว่าประโยชน์ บางคนเลือกหยุดใช้ยาคุมฮอร์โมนเพื่อดูว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรเมื่อไม่มีมัน
ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ ยาคุมกำเนิดชนิดออกฤทธิ์สั้น (SARCs) และ ยาคุมกำเนิดชนิดออกฤทธิ์ยาว (LARCs)
ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนทุกชนิดประกอบด้วย โปรเจสติน (ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์) ซึ่งอาจเป็นแบบโปรเจสตินล้วน หรือแบบผสมที่มี เอสโตรเจน ด้วย เมื่อลดการสร้างฮอร์โมนตามธรรมชาติของร่างกาย ยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์และช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับความไม่สมดุลฮอร์โมน เช่น สิว วิตกกังวล หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ประจำเดือนมานานและมาก ปวดประจำเดือนรุนแรง เจ็บหน้าอก และอื่น ๆ
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยาคุมที่เลือกใช้ให้ดี และสังเกต ร่างกายและอารมณ์ของตัวเอง เมื่อเริ่มใช้ยาคุมฮอร์โมน เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อความเหมาะสม ยาคุมแบบผสมไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือพฤติกรรมที่อาจเกิดอันตรายจากเอสโตรเจน
ผู้หญิงอาจหยุดใช้ยาคุมกำเนิดด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ อาจจะเพราะพร้อมมีบุตร, ไม่ชอบความรู้สึกตอนใช้ยาคุม หรือมีผลข้างเคียง หรือแค่อยากลองใช้ชีวิตโดยไม่มีฮอร์โมนชั่วคราว เมื่อเป็นเรื่องของร่างกาย ควรทำในสิ่งที่รู้สึกว่าใช่สำหรับตนเอง
ร่างกายจะใช้เวลาปรับรอบเดือนให้เข้าสู่ภาวะปกติหลังหยุดใช้ยาคุมฮอร์โมน คุณสามารถหยุดใช้ยาคุมได้ทุกช่วงของรอบเดือน แต่ควรใส่ใจเรื่องเวลา เช่น หากทานยาคุมแบบเม็ด ควรทานจนหมดแผงนั้นและไม่ต่อแผงใหม่ ดีกว่าหยุดกลางคันเพื่อลดความผันผวนของฮอร์โมนที่ไม่จำเป็น
หากใช้ยาคุมเพื่อรักษาสมดุลฮอร์โมน ควรจำไว้ว่า มันไม่ใช่ทางรักษาถาวร หลังหยุดใช้ยาคุม ฮอร์โมนและอาการไม่สบายที่เคยมีอาจกลับมา โดยอาจกลับมารุนแรงช่วงแรกเพราะการฟื้นตัวของการสร้างฮอร์โมนธรรมชาติ
ดูแลร่างกายให้ดีในช่วงนี้ รับประทานอาหารหลากหลาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ บริหารความเครียด และมีเมตตากับตัวเอง การทานอาหารเสริมที่ช่วยปรับรอบเดือน สมดุลแอนโดรเจนหรือเอสโตรเจน ช่วยให้ร่างกายปรับตัวง่ายขึ้น (หากคุณมีปัญหาเหล่านี้) โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมให้เหมาะกับร่างกายของคุณ
โดยปกติร่างกายจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าระดับฮอร์โมนจะทรงตัวหลังหยุดใช้ยาคุม ฮอร์โมน ระยะเวลาขึ้นกับความไวของร่างกายและระยะเวลาการใช้ รวมถึงโรคประจำตัวเดิม หากประจำเดือนยังไม่เป็นปกติหลัง 3-4 เดือน ควรปรึกษาแพทย์
การใช้ยาคุมฮอร์โมนอาจส่งผลหลายด้านที่ไม่สวยงาม ผู้หญิงจำนวนมากรายงานว่ามีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลขณะใช้ยาคุม บางคนรู้สึกมีความสุขขึ้นหลังหยุดใช้ หญิงบางคนอาจปวดศีรษะก่อนหรือระหว่างประจำเดือนถอนยา (จากระดับฮอร์โมนที่ลดลง)—อาการเหล่านี้มักจะหายไป เช่นเดียวกับน้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นขณะใช้ยาคุม ความต้องการทางเพศมักลดลงขณะใช้ยาคุม—ถ้าเป็นแบบนี้สำหรับคุณ อาจรู้สึกถึงความต้องการที่มากขึ้นหลังหยุดใช้
ผู้หญิงบางคนประสบกับอาการไม่สบายหลังหยุดยาคุมฮอร์โมนอย่างรุนแรง เรียกว่า กลุ่มอาการหลังหยุดยาคุม แม้ไม่พบบ่อยนักแต่การเลิกใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์อาจทำให้อาการเดิมกำเริบขึ้นได้
ภาวะประจำเดือนขาด หมายถึง การไม่มีรอบเดือน การที่ประจำเดือนไม่กลับมาต่อเนื่องภายใน 6 เดือนหลังหยุดใช้ยาคุม หมายถึง ภาวะประจำเดือนขาดหลังหยุดยาคุม ฮอร์โมนสังเคราะห์ในยาคุมจะไปยับยั้งการสร้างโปรเจสเตอโรนตามธรรมชาติ ดังที่กล่าว การฟื้นคืนจังหวะร่างกายต้องใช้เวลา หากหยุดใช้ยาคุมฮอร์โมนแล้วเกิน 6 เดือน ประจำเดือนยังไม่มา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ที่พบบ่อยประมาณ 1 ใน 10 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ไม่ว่าคุณจะใช้หรือไม่ใช้ยาคุม แต่การหยุดใช้ยาคุมบางคนเกิดอาการ PCOS ชั่วคราวในช่วงที่ร่างกายฟื้นตัว อาการแตกต่างกันไป เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มามาก มารุนแรง ซีสต์ในรังไข่ สิว ขนดก ดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง หากพบ 3 ข้อขึ้นไป อาจเป็น PCOS ซึ่งอาการ PCOS หลังเลิกยาคุมมักจะหายไปเองเมื่อฮอร์โมนกลับมาสมดุล
เนื่องจากอาการ PCOS ไม่แน่นอนจึงมักไม่ถูกวินิจฉัย ยาคุมฮอร์โมนอาจกลบโรคนี้โดยเฉพาะหากเริ่มใช้ตั้งแต่อายุน้อย เนื่องจากอาการ PCOS เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนวัยรุ่น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ผลของ PCOS ต่อสุขภาพและภาวะเจริญพันธุ์.
สามารถมีรอบเดือนโดยไม่ตกไข่ ซึ่งไม่ง่ายต่อการสังเกต เพราะหลายคนเข้าใจว่ามีเลือดออกคือปกติ วิธีง่ายที่สุดในการรู้ว่ามีไข่ตกหรือไม่ คือซื้อชุดตรวจไข่ตกด้วยตัวเองหรือปรึกษาแพทย์ บางคนใช้การวัดอุณหภูมิร่างกายขณะพักเพื่อติดตามการตกไข่
การตกไข่สำคัญต่อการควบคุมรอบเดือนและสุขภาพผู้หญิงโดยรวม นอกจากทำให้สามารถตั้งครรภ์ การตกไข่ยังดีต่อร่างกาย เช่น ทำให้ประสาทรับรู้ไวขึ้น ความต้องการทางเพศสูงขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีความมั่นใจมากขึ้น
การศึกษาชี้ว่า การใช้ยาคุมฮอร์โมนสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น ภาวะทางใจนี้มักเป็นเหตุผลหนึ่งในการหยุดใช้ยาคุม แต่สุขภาพจิตต้องใช้เวลาฟื้นฟูแม้หยุดใช้ฮอร์โมนแล้ว แม้ความเชื่อมโยงจะยังไม่ชัดเจน แต่นักวิชาการคิดว่าการกดการตกไข่และการสร้างโปรเจสเตอโรนตามธรรมชาติอาจเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีผลดีต่อสมองและระบบประสาท ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ยาคุมฮอร์โมนช่วยให้ผู้หญิงนับล้านจัดการการเจริญพันธุ์และรอบเดือนของตนได้ดีขึ้น แม้จะเหมาะกับบางคน แต่อาจสร้างปัญหาให้คนอื่น ให้ใส่ใจร่างกายตัวเองเพื่อหาวิธีจัดการการเจริญพันธุ์ที่ใช่ หากหยุดใช้ยาคุม ลองติดตามรอบเดือนด้วย WomanLog เพื่อเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย รอบเดือนคือกระจกสะท้อนสุขภาพโดยรวมของคุณ
คุณสามารถติดตามประจำเดือนผ่านแอป WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้ววันนี้: