ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูก (หรือที่เรียกว่า ไฟโบรไมโอมา, ไลโอไมโอมา, หรือ ไมโอมา) คือ เนื้องอกธรรมดาที่พบมากที่สุดในผู้หญิง มากกว่า 50% ของผู้หญิงจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก แต่มีเพียงไม่ถึงครึ่งที่เกิดอาการแสดง

สำรวจเนื้องอกมดลูก - ทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และแนวทางรักษา

เนื้องอกในมดลูกส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย ต้องรับการรักษาเมื่อกระตุ้นให้มีเลือดออกหนักผิดปกติประจำเดือน กดทับอวัยวะภายใน หรือทำให้เกิดปัญหามีบุตรยาก ควรปรึกษาแพทย์หรือสูตินรีแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาต่าง ๆ ที่มีอยู่

เนื้องอกมดลูกจัดเป็นเนื้องอกไม่ร้ายแรง: ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อมะเร็งมดลูกที่เพิ่มขึ้น และแทบจะไม่พัฒนาเป็นเนื้องอกมะเร็งเลย

เนื้องอกในมดลูกมักขึ้นทีละก้อนหลายก้อน แต่อาจพบแค่ก้อนเดียวก็ได้ ส่วนมากขนาดเล็ก แต่บางกรณีก็โตมากพอที่จะกินเนื้อที่ผนังมดลูกเกือบหมด

อาการ

เนื้องอกในมดลูกมีทั้งที่มีอาการ (“ก้อนมีฤทธิ์”) และไม่มีอาการ (“ก้อนสงบ”) เนื้องอกที่ไม่มีอาการอาจตรวจพบระหว่างเช็คอัพภายในปกติ แต่ก้อนขนาดเล็กจำนวนมากมักไม่ถูกตรวจพบ ก้อนที่มีอาการนั้นจะปรากฏอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้:

  • ปวดประจำเดือน
  • มีเลือดออกมากหรือประจำเดือนนานผิดปกติ
  • แน่นหรือปวดบริเวณเชิงกราน
  • ปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะลำบาก

อาการอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ เช่น ท้องผูก, ปวดหลัง, ปวดขา, ภาวะโลหิตจาง, น้ำหนักขึ้น, เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ และ ภาวะมีบุตรยาก

อาการที่เกิดจากเนื้องอกมดลูกขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ขนาด และจำนวนก้อน บางครั้งก้อนเนื้องอกโตเกินเลือดหล่อเลี้ยงจนเริ่มตาย ทำให้ปวดเฉียบพลัน หลายภาวะทางนรีเวชมีอาการใกล้เคียงกัน การวินิจฉัยด้วยตนเองจึงทำได้ยาก หากมีความกังวลควรพบผู้เชี่ยวชาญทันที

การจำแนกประเภท

เนื้องอกมดลูกแยกตาม ขนาด ได้ดังนี้:

  • ขนาดเล็ก (>1ซม.–5ซม.) – ขนาดเท่าถั่วถึงลิ้นจี่
  • ขนาดกลาง (5ซม.–10ซม.) – เท่าลูกพีชถึงมะนาวใหญ่
  • ขนาดใหญ่ (10ซม.ขึ้นไป) – เท่ามะม่วงหรือลูกใหญ่กว่า

เนื้องอกบางก้อนสามารถโตจนดันขยายมดลูกและเกี่ยวข้องกับช่องท้องและเชิงกราน ในกรณีรุนแรง ก้อนหลายก้อนอาจทำให้มดลูกขยายจนถึงซี่โครงก่อให้เกิดแรงกดไม่สบายมาก

พฤติกรรมการเจริญเติบโตของเนื้องอกแตกต่างกัน บางก้อนโตเร็ว บางก้อนฝ่อลงเอง หรือคงขนาดเดิม ก้อนที่มีในขณะตั้งครรภ์มักฝ่อลงหรือหายไปเมื่อมดลูกกลับขนาดปกติและฮอร์โมนเอสโตรเจนลด

เนื้องอกยังจำแนกตาม ตำแหน่ง:

เนื้องอกผนังมดลูก (Intramural fibroids) เกิดขึ้นระหว่างชั้นกล้ามเนื้อมดลูก

ชนิดย่อยของเนื้องอกผนังมดลูก:

  • ก้อนผนังด้านหน้า (anterior) อยู่ด้านหน้าของมดลูก
  • ก้อนผนังด้านหลัง (posterior) อยู่ด้านหลังของมดลูก
  • ก้อนผนังด้านบน (fundal) อยู่ด้านบนของมดลูก

เนื้องอกใต้เยื่อบุโพรงมดลูก (Submucosal/Intracavitary fibroids) ยื่นก้อนเข้าไปในโพรงมดลูก ก้อนชนิดนี้อยู่ใต้เยื่อบุชั้นในจึงมักทำให้เลือดออกมากและนานกว่าชนิดอื่น เพราะบริเวณนี้ไวต่อแรงกดจนก้อนแม้เพียงเล็กก็อาจมีอาการ

เนื้องอกใต้เยื่อบุโพรงยังเป็นชนิดที่พบว่ามีผลต่อการตั้งครรภ์และการมีบุตรได้มากกว่า ผู้หญิงที่มีก้อนชนิดนี้มักมีเลือดออกมากและประจำเดือนยาวนาน

เนื้องอกใต้เยื่อหุ้มมดลูก (Subserosal fibroids) เกิดด้านนอกมดลูก ก่อให้มดลูกขยายใหญ่ขึ้นได้ เพราะก้อนไม่อยู่ในโพรงจึงมีที่ขยายจนขนาดใหญ่มากก่อนแสดงอาการ เช่น ขนาดเท่าส้มโอขึ้นไป

เนื้องอกแบบมีขั้ว (Pedunculated fibroids) ก้อนก่อขั้วเชื่อมกับผนังมดลูก ขึ้นกับขนาดและตำแหน่ง ก้อนอาจทำให้มดลูกเห็นโป่งด้านข้างชัดเจนขึ้น

ไขปริศนา – สำรวจสาเหตุยังไม่ทราบของเนื้องอกมดลูกในสตรี

ความสัมพันธ์และสาเหตุที่อาจเกี่ยวข้อง

เช่นเดียวกับหลายปัญหาในระบบสตรี ความจริงเกี่ยวกับสาเหตุโดยตรงของเนื้องอกมดลูกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยพบปัจจัยที่สัมพันธ์กันดังนี้:

พันธุกรรม

พบว่าเนื้องอกจำนวนมากมีการเปลี่ยนแปลงของยีนต่างจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกปกติ หากครอบครัวมีประวัติก็มีโอกาสเป็นมากขึ้นด้วย

ฮอร์โมน

เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (ฮอร์โมนหลักที่กระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาพร้อมตั้งครรภ์) ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเนื้องอก ก้อนเหล่านี้มีตัวรับฮอร์โมนสูงกว่าเซลล์ปกติ ก้อนจึงเจริญอย่างรวดเร็วระหว่างตั้งครรภ์ และจะฝ่อลงเองเมื่อฮอร์โมนลดลงหลังคลอด หรือเมนส์หมด

สารเมทริกซ์นอกเซลล์ (ECM)

ECM ทำหน้าที่เหมือนปูนเชื่อมให้เซลล์ติดกัน ก้อนเนื้องอกจะมี ECM สูงจึงแน่นและแข็ง ECM ยังเก็บปัจจัยการเจริญเติบโตและก่อการเปลี่ยนแปลงเซลล์

เชื้อชาติ

แม้ผู้หญิงทุกเชื้อชาติจะมีโอกาสเป็นเนื้องอกมดลูก แต่ผู้หญิงผิวดำเป็นมากกว่า ก้อนใหญ่กว่า และอาการรุนแรงกว่าที่อายุยังน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น

ปัจจัยอื่น ๆ

ตั้งแต่มีประจำเดือนเร็ว อ้วน ขาดวิตามินดี กินเนื้อแดงหรือแอลกอฮอล์มาก และทานผัก ผลไม้ นม น้อย ล้วนเพิ่มความเสี่ยง

วิทยาศาสตร์ยังมีข้อมูลจำกัดเรื่องการป้องกันแต่ก็มีการศึกษาต่อเนื่อง แม้ป้องกันไม่ได้แน่ชัด โชคดีที่มีส่วนน้อยจำเป็นต้องรักษา

เนื้องอกมดลูกกับภาวะมีบุตร

แม้เนื้องอกมดลูกพบได้บ่อยในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีบุตรยากจริงมีเพียงส่วนน้อย

วิธีเนื้องอกมดลูกขัดขวางการตั้งครรภ์ยังไม่แน่ชัด อาจดักหรือขวางทางเดินสเปิร์มหรือแย่งเลือดจากเยื่อบุผนังมดลูก กีดขวางการฝังตัว การเอาก้อนออกช่วยให้ผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์ไม่ได้สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จอีก

บางกรณีพบภาวะแทรกซ้อน เช่น รกเกาะต่ำ ทารกโตช้า หรือคลอดก่อนกำหนดได้

การวินิจฉัย

สูตินรีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะตรวจ ภายใน เพื่อประเมินเบื้องต้น อาจพบการเปลี่ยนแปลงผิดปกติหรือก้อนเนื้อสงสัยเป็นเนื้องอก ซึ่งควรตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันและวางแผนการรักษาหากจำเป็น

ขั้นถัดไปมักเป็น อัลตราซาวนด์ (ทางหน้าท้องหรือช่องคลอด) เพื่อแยกโรคอื่นและระบุตำแหน่ง ขนาดของก้อน

บางครั้งต้องตรวจ เลือด เพื่อแยกโรคเลือดออกผิดปกติหรือฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ

เอ็มอาร์ไอ (MRI) พบว่าเป็นประโยชน์ในกรณีมดลูกใหญ่หรือใกล้หมดประจำเดือน ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่ง ขนาด รูปทรง และชนิดของเนื้องอก เพื่อวางแผนรักษาที่เหมาะสม

ฮิสเทอโรโซโนกราฟี หรือ ซาวนด์น้ำ ใส่น้ำเกลือเข้ามดลูกช่วยขยายโพรงและเห็นภาพชัดขึ้น

ฮิสเทอโรซัลปิงโกกราฟี ใช้สีเอกซเรย์ใส่เข้าโพรงมดลูกและท่อนำไข่เพื่อดูภาพชัดเจนขึ้นในการเอกซเรย์

ฮิสเทอโรสโคปี ตรวจด้วยกล้องส่องเข้าโพรงมดลูกผ่านปากมดลูก แล้วฉีดน้ำเกลือขยายช่องมดลูกให้เห็นผนังและท่อนำไข่ได้ชัดเจน

การรักษา

ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่มีเนื้องอกในมดลูกต้องรักษา ถ้าไม่มีอาการหรือปัญหาก้อนมักฝ่อลงหรือหายไปเองได้

ถ้ามีก้อนไร้อาการควรตรวจติดตามเป็นประจำปีละครั้ง เพื่อมั่นใจก้อนไม่โตขึ้น

การรักษาเนื้องอกมดลูกขึ้นกับตำแหน่ง ขนาด สุขภาพและอายุของผู้ป่วย

ยา เป็นการควบคุมฮอร์โมนรอบเดือน ลดอาการเช่นเลือดออกมากหรือเจ็บเชิงกราน (ไม่ได้ทำให้ก้อนหายแต่ช่วยฝ่อลง) ตัวอย่างยาที่ใช้:

  • โกนาโดโทรปิน รีลีสซิ่ง ฮอร์โมน (GnRH) ลดการผลิตเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ทำให้คล้ายหมดประจำเดือนชั่วคราว (มีอาการร้อนวูบวาบ) หยุดประจำเดือน ช่วยให้ก้อนฝ่อลงและแก้โลหิตจาง ใช้ 3-6 เดือน ไม่แนะนำให้นานเพราะความหนาแน่นกระดูกลดลง อาจใช้เพื่อเตรียมผ่าตัดหรือเร่งเข้าวัยหมดประจำเดือน
  • ห่วงอนามัยฮอร์โมน (IUD) ชนิดโปรเจสติน ช่วยลดเลือดออกมากแต่ไม่ฝ่อลงหรือหายไป
  • กรดทรานเอกซามิก ยาไม่ใช่ฮอร์โมนที่ช่วยลดเลือดประจำเดือนมากผิดปกติ
  • ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ควบคุมการมีประจำเดือนแต่ไม่ลดขนาดก้อน
  • ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ช่วยลดอาการปวด แต่ไม่ลดเลือดออก
  • ยา ต้านอักเสบ และ แก้ปวด ที่มีจำหน่ายทั่วไป สามารถช่วยบรรเทาอาการบางประการ
  • ถ้าเป็นโลหิตจางจากเลือดออกมาก แพทย์อาจสั่ง ธาตุเหล็ก และวิตามินรวมอื่น ๆ

นอกจากยาแล้ว ยังมีหัตถการและการผ่าตัดที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยควบคุมปัญหาเนื้องอกมดลูกได้ เช่น หัตถการแบบไม่ผ่าตัด แบบผ่าตัดน้อย หรือผ่าตัดใหญ่

เทคนิคไม่ผ่าตัด (Noninvasive procedures) ไม่ต้องเปิดแผลและเข้า-ออกในวันเดียวกัน

ใช้เครื่อง MRI กับอัลตราซาวนด์พลังงานสูงช่วยระบุตำแหน่งก้อน และใช้อัลตราซาวนด์โฟกัสด้วยความร้อนจี้ก้อนทำให้บางส่วนตายลง

เทคนิคผ่าตัดน้อย (Minimally invasive procedures):

ในหัตถการ อุดหลอดเลือดมดลูก (Uterine artery embolization) สารอุดหลอดเลือดจะถูกฉีดเข้าตรงจุดหลอดเลือดที่เลี้ยงก้อน ทำให้ก้อนไม่มีเลือดและฝ่อไป

วิธีนี้ช่วยลดขนาดและบรรเทาอาการได้ดี แต่ถ้าเลือดไปอวัยวะอื่นถูกตัดขาดอาจมีผลแทรกซ้อน (พบได้น้อยนัก) จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่วางแผนมีลูก

Radiofrequency ablation ใช้พลังงาน RF กำจัดก้อนและลดเส้นเลือดเลี้ยงก้อน ก้อนที่ถูกทำลายจะยุบเล็กลงใน 3–12 เดือน ลดอาการลงเรื่อย ๆ อาจทำผ่านกล้องส่องท้องหรือทางปากมดลูก


ก้อนเนื้องอกที่ถูกจี้ด้วยคลื่น RF จะเปลี่ยนเนื้อกะทันหันให้คล้ายกับเนื้อมาร์ชแมลโลว์

วิธีอื่นที่คล้ายกันเรียก cryomyolysis ใช้น้ำยาหล่อเย็นช่วยแข็งและทำลายก้อน

ผ่าตัดแบบมาตรฐาน (Traditional surgical techniques):

ผ่าตัดเอาเนื้องอก (Myomectomy) เหมาะสำหรับผู้วางแผนมีบุตรในอนาคต แพทย์จะตัดเฉพาะก้อนออก แต่ยังเหลือมดลูกเดิม


ผ่าตัดอาจทำให้เกิดแผลเป็นในโพรงมดลูก ส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนโดยตรงได้

ขึ้นกับจำนวนก้อน ขนาด และตำแหน่ง มี 3 วิธีหลัก:

  • ผ่าตัดหน้าท้อง (Abdominal myomectomy) เหมาะกับก้อนเยอะใหญ่และเข้าถึงยาก เปิดหน้าท้องส่วนล่าง ผ่าตัดเอาก้อนออกแล้วเย็บกล้ามเนื้อมดลูกกลับ ต้องนอน รพ. หลายคืน ฟื้นตัว 4–6 สัปดาห์ หากตั้งครรภ์ในอนาคตอาจต้องทำคลอดโดยผ่าตัดแทนคลอดเอง
  • ผ่าตัดโดยส่องกล้องผ่านโพรงมดลูก (Hysteroscopic myomectomy) ใช้กล้องฮิสเทอโรสโคปส่องในโพรงมดลูก แล้วศัลยแพทย์ใช้เครื่องมือพิเศษตัดก้อนออก การฟื้นตัวเร็ว กลับบ้านได้ในวันเดียว
  • ผ่าตัดส่องกล้องทางหน้าท้อง (Laparoscopic myomectomy) ศัลยแพทย์เปิดแผลเล็กหลายจุดที่หน้าท้องเพื่อตัดเนื้องอก

หลังผ่าตัด อาการส่วนมากจะหายไป แต่ขึ้นกับจำนวนและว่าถูกตัดออกหมดหรือไม่ โรคก็อาจกลับมาได้

การผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy) คือการผ่าตัดใหญ่เอามดลูกทั้งลูกออกพร้อมก้อนทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดแบบถาวรและควรเป็นทางเลือกสุดท้าย

การวิจัยเพื่อค้นหาสาเหตุและการป้องกันที่แท้จริงของเนื้องอกมดลูกยังต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะถึงวันนั้นโปรดเชื่อมั่นในความรู้และประสบการณ์ของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์

ติดตามรอบเดือนของคุณได้ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/uterine-fibroids/symptoms-causes/syc-20354288
https://medical-dictionary.thefreedictionary.com/fibromyoma
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3343067/
https://fibroids.com/fibroid-info/fibroid-sizes/
https://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=6238
https://www.healthline.com/health/intramural-fibroid
https://www.health.harvard.edu/womens-health/what-is-a-submucosal-uterine-fibroid
https://www.usafibroidcenters.com/blog/what-are-intramural-fibroids-and-how-do-you-treat-them/
https://www.healthline.com/health/uterine-fibroids
https://www.yourperiod.ca/fr/uterine-fibroids/how-are-fibroids-diagnosed/
https://www.webmd.com/women/uterine-fibroids/understanding-uterine-fibroids-treatment#1
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3787340/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3874080/
https://www.researchgate.net/publication/236980951_Fibroids_a_silent_health_problem_affecting_women_in_Trinidad_and_Tobago
https://www.womenshealth.gov/a-z-topics/uterine-fibroids
https://www.nhs.uk/conditions/fibroids/
Advertisement


ฮัดชิ้ว! มีใครกำลังจามบ่อย น้ำมูกไหล คันตา น้ำตาไหล และคันหรือไม่สบายตัวโดยไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันบ้างไหม? อาการแพ้สามารถน่ารำคาญและแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ แต่ก็สามารถดูแลและจัดการได้เช่นกัน
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อรังไข่ข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของผู้หญิงเกิดการอักเสบ? วิธีที่ดีที่สุดในการวินิจฉัยและรักษาการอักเสบของรังไข่คืออะไร? บล็อกโพสต์ฉบับละเอียดของเรานี้จะอธิบายอาการและผลกระทบของภาวะที่พบไม่บ่อยแต่มีความอันตรายนี้ พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติหากคุณพบอาการเหล่านี้ในตัวเอง
การมีเหงื่อเป็นการทำงานตามปกติของร่างกาย—ผู้หญิงทุกคนมีเหงื่อไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศอะไรก็ตาม หรือลงแรงมากน้อยแค่ไหนก็ตาม บางครั้งเราอาจสังเกตเห็นว่าปริมาณเหงื่อหรือกลิ่นของเหงื่อเปลี่ยนไป ซึ่งมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้