ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

การคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน

การคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนไม่ได้เหมาะกับผู้หญิงทุกคน—บางคนมีอาการข้างเคียง ขณะที่บางคนไม่สบายใจที่จะปรับเปลี่ยนร่างกายของตัวเองในระดับพื้นฐานแบบนั้นเลย ทางเลือกเหล่านี้คือวิธีอื่น ๆ ที่สามารถใช้ได้

ทางเลือกที่ทรงพลัง: สำรวจวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน

การคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมนประกอบด้วยวิธีป้องกันทางกายภาพและวิธีธรรมชาติ ห่วงอนามัยทองแดง และการทำหมัน การคุมกำเนิดที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ถุงยางอนามัยชายและหญิงเท่านั้น เว้นแต่จะมั่นใจ 100% ว่าคู่เพศสัมพันธ์ทุกฝ่ายปลอดโรค 100% ต้องสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์เสมอ

วิธีป้องกันทางกายภาพ

วิธีคุมกำเนิดทางกายภาพจะป้องกันอสุจิไม่ให้เข้าไปในโพรงมดลูกและผสมกับไข่ โดยทั่วไป วิธีเหล่านี้มีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิธีที่ใช้ฮอร์โมนหรือห่วงอนามัย แต่อาการข้างเคียงน้อยกว่า ตัวอย่างวิธี ได้แก่ ถุงยางอนามัย กระบังลมหรือไดอะแฟรม หมวกปากมดลูก และฟองน้ำคุมกำเนิด

ถุงยางอนามัยชาย เป็นปลอกบางยืดหยุ่นรูปทรงกระบอก ทำจากโพลียูรีเทนหรือยาง ซึ่งถูกสวมลงบนองคชาตที่แข็งตัวก่อนมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs หรือ STIs) และการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าสู่ช่องคลอด


ถุงยางอนามัยชายไม่ได้ป้องกัน 100%—อาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยถุงยางขาดหรือหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะภายหลังการหลั่ง

ถุงยางอนามัยใช้ได้ง่าย ราคาประหยัด และหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ หลายองค์กรแจกฟรีด้วย มีหลากหลายขนาด รูปร่าง สี ทั้งแบบมีน้ำหล่อลื่นและแบบไม่มี บางยี่ห้อพื้นผิวถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศให้ทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

สำหรับผู้มีอาการแพ้ยางธรรมชาติอาจเกิดผื่น ลมพิษ อาการคัน หรือมีน้ำมูกได้ จึงควรใช้ถุงยางชนิดไม่ใช้ยางธรรมชาติที่ทำจากโพลียูรีเทนแทน

ถุงยางอนามัยหญิง เป็นปลอกบางยืดหยุ่น ผลิตจากไนไตรล์สังเคราะห์หรือยางธรรมชาติ มีวงแหวนด้านหัวและท้าย

นำวงแหวนฝั่งปิดใส่เข้าไปและดันขึ้นจนถึงปากมดลูก ส่วนวงแหวนฝั่งเปิดจะอยู่บริเวณปากช่องคลอด

ถุงยางอนามัยหญิงสามารถใช้ป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ทันที และหากใช้ถูกวิธีจะมีประสิทธิภาพ 95% โดยหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์หรือขนาดที่จำเพาะ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะรู้สึกสบายใจในการใช้ถุงยางอนามัยหญิง บางรายอาจรู้สึกไม่ชินกับขั้นตอนการสอดใส่หรือวงแหวนด้านนอกขณะใช้งาน

ไดอะแฟรมคุมกำเนิด: อุปกรณ์รูปโดมกลมแบบใช้ซ้ำ

ไดอะแฟรมคุมกำเนิด เป็นอุปกรณ์รูปโดมกลมแบบใช้ซ้ำ ขอบแข็งแต่ยืดหยุ่น ผลิตจากยางหรือซิลิโคน ขณะใช้งานต้องวางไว้ในช่องคลอดให้ครอบปิดปากมดลูก เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าถึงไข่และควรใช้คู่กับสารฆ่าอสุจิ ต้องค้างไว้ในช่องคลอดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ต้องไม่นานเกิน 24 ชั่วโมง หากใช้ถูกวิธีจะมีประสิทธิภาพสูงถึง 92–96%

หมวกปากมดลูก (cervical cap) สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ลักษณะคล้ายกับไดอะแฟรมแต่มีขนาดเล็กกว่า ผลิตจากยาง รูปร่างเหมือนปลอกนิ้วขนาดใหญ่ ใส่ครอบปากมดลูกและยึดติดด้วยแรงดูด มีสายสำหรับช่วยถอดออก หมวกปากมดลูกจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เมื่อใช้คู่กับสารฆ่าอสุจิ ต้องคงไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่เกิน 48 ชั่วโมง

ไม่ควรใช้ไดอะแฟรมและหมวกปากมดลูกขณะมีประจำเดือน เพิ่งผ่าตัดบริเวณปากมดลูก แพ้สารฆ่าอสุจิ มีการติดเชื้อ หรือมีรูปทรงปากมดลูกที่ผิดปกติ

ฟองน้ำคุมกำเนิด เป็นวัสดุโฟมโพลียูรีเทนเนื้อนุ่มรูปทรงกลมแบน ด้านในอิ่มตัวด้วยสารฆ่าอสุจิ ต้องนำฟองน้ำเปียกน้ำเพื่อกระตุ้นสารออกฤทธิ์ก่อนใช้งาน ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสอดฟองน้ำ ฟองน้ำจะช่วยป้องกันอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก ต้องค้างไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังร่วมเพศแต่ไม่เกิน 30 ชั่วโมง

Advertisement


วิธีที่ไม่ใช่อุปสรรคกายภาพ

ห่วงอนามัยทองแดง หรือ IUD แบบทองแดงคืออุปกรณ์รูปตัว T ที่ใส่ในโพรงมดลูกและปล่อยทองแดงในปริมาณน้อยออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งทำหน้าที่เป็นสารฆ่าอสุจิ วิธีนี้มีประสิทธิภาพทันทีและอยู่ได้นาน 5–10 ปีขึ้นกับชนิด หลังถอดห่วงออกความสามารถในการตั้งครรภ์จะกลับมาในทันที

ผู้หญิงบางคนอาจมีประจำเดือนมายาวนานและปวดมากขึ้นในช่วง 3–6 เดือนแรกหลังใส่ห่วง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และมีโอกาสที่ร่างกายจะขับห่วงออกเองซึ่งแพทย์จะสอนวิธีตรวจสอบให้ IUD หรือห่วงทองแดงไม่แนะนำสำหรับคนตั้งครรภ์หรือมีประวัติติดเชื้ออุ้งเชิงกราน


ห่วงอนามัยสามารถใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินได้

วิธีธรรมชาติ

วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติพึ่งความใส่ใจต่อร่างกายของตนเองล้วน ๆ เช่น การควบคุมการหลั่งขณะมีเพศสัมพันธ์ การสังเกตอาการของร่างกายเพื่อดูช่วงไข่ตก หรือทั้งสองอย่าง แม้ประสิทธิภาพจะน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลยและเหมาะกับความเชื่อบางศาสนา

วิธีหลั่งนอก (“coitus interruptus”) คือการถอนองคชาตออกจากช่องคลอดก่อนถึงจุดสุดยอด เป็นวิธีที่สะดวกและไม่มีค่าใช้จ่ายและผลข้างเคียง

แต่ก็มีข้อเสีย ได้แก่:

  • อย่างแรก คือไม่ใช่วิธีที่เชื่อถือได้เสมอไป เพราะอสุจิอาจเล็ดลอดเข้าไปในช่องคลอดหากถอนช้าไป หรือแม้แต่ของเหลวก่อนหลั่ง (precum) อาจมีอสุจิปะปนอยู่

ประมาณ 1 ใน 5 ผู้หญิงที่ใช้วิธีหลั่งนอกจะตั้งครรภ์ภายใน 1 ปี

  • อย่างที่สอง วิธีธรรมชาติไม่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • อย่างที่สาม ต้องใช้สมาธิและการควบคุมตนเองสูง อาจรบกวนความสุขทางเพศ เนื่องจากต้องกังวลเรื่องจังหวะเวลาและอาจเป็นแรงกดดันทางจิตใจซึ่งส่งผลถึงความสัมพันธ์ได้

วิธีสังเกตมูกปากมดลูก เป็นการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติที่เน้นการตระหนักถึงความอุดมสมบูรณ์ ต้องสังเกตและจดบันทึกรูปแบบมูกปากมดลูกตลอดรอบเดือน มูกปากมดลูกจะเปลี่ยนลักษณะตามรอบของร่างกาย การสังเกตมูกจะช่วยให้ผู้หญิงคาดเดาช่วงตกไข่และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์

วิธีนี้ต้องตั้งใจสังเกตร่างกายและจดบันทึกเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มีความเสี่ยงต่อชีวิตคู่เพราะขาดธรรมชาติและความสนุกในเพศสัมพันธ์ แพทย์ประเมินว่าประสิทธิภาพเฉลี่ยประมาณ 77% ในปีแรก และสูงสุดได้ถึง 97% หากใช้อย่างถูกต้อง

บางคนนำวิธีสังเกตมูกปากมดลูกมารวมกับวิธีจดอุณหภูมิร่างกายขณะพัก (ซึ่งอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นในช่วงตกไข่) หรือวิธีคำนวณรอบเดือน (calendar method)

วิธีจดบันทึกรอบเดือน (calendar method) หรือวิธีนับวันปลอดภัย ผู้หญิงจะจดรอบเดือนเพื่อคาดช่วงตกไข่ แล้วหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงนั้น

วิธีนี้ต้องมีความสม่ำเสมอในการจดบันทึกและมีวินัย ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีความเสี่ยงทางสุขภาพ มีประสิทธิภาพเฉลี่ย 80–87%

วิธีไม่มาเดือนหลังคลอดเพราะให้นม (LAM – lactational amenorrhea method) จะใช้ได้เฉพาะใน 6 เดือนแรกหลังคลอดโดยให้นมลูกอย่างต่อเนื่องและไม่มีอาหารหรือน้ำเสริม ปกติการให้นมจะทำให้ผู้หญิงไม่มีไข่ตกและไม่มีประจำเดือน ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากตามธรรมชาติชั่วคราว

การทำหมัน

การทำหมันเป็นทางเลือกสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ต้องการมีบุตรอีก แม้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี แต่ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การผูกและตัดท่อนำไข่ (Tubal ligation) หรือการทำหมันหญิง เป็นรูปแบบการคุมกำเนิดถาวรสำหรับผู้หญิง โดยแพทย์จะผูก ตัด หรือปิดท่อนำไข่เป็นการผ่าตัด วิธีนี้โดยปกติถือว่าไม่สามารถแก้ไขกลับคืนได้ หากต้องการแก้ไขต้องผ่าตัดที่ซับซ้อนและไม่ได้ได้ผลเสมอไป

ขบวนการนี้ไม่ส่งผลต่อระบบฮอร์โมนหรือรอบเดือน แต่อาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก (ectopic pregnancy)—คือไข่ที่ปฏิสนธิฝังตัวนอกมดลูกซึ่งมักเกิดขึ้นที่ท่อนำไข่ เป็นภาวะที่อันตรายซึ่งต้องได้รับการรักษาทันที

อย่างไรก็ตาม การผูกและตัดท่อนำไข่มักปลอดภัย และอาจลดความเสี่ยงมะเร็งรังไข่โดยเฉพาะกรณีที่เลือดท่อนำไข่ออกด้วย

การทำหมันชาย (vasectomy) เป็นการคุมกำเนิดถาวรสำหรับผู้ชาย โดยแพทย์จะตัดและปิดท่อนำอสุจิ ทำให้อสุจิไม่อยู่ในน้ำอสุจิ วิธีนี้ปลอดภัยแต่โดยทั่วไปจะเป็นถาวร หากชายต้องการมีลูกหลังทำหมัน อาจต้องใช้วิธีเด็กหลอดแก้วหรือรับบุตรบุญธรรม

การตัดสินใจทำหมันถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทั้งสองเพศ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ แม้บางคนจะไม่เห็นด้วยกับขั้นตอนนี้ก็ตาม แต่อย่าลืมว่าร่างกายเป็นของคุณเอง คุณมีสิทธิ์ตัดสินใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเองเสมอ

คุณสามารถใช้ WomanLog เพื่อวางแผนการคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.nhs.uk/conditions/contraception/which-method-suits-me/
https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/cervical-mucus-method/about/pac-20393452
https://www.kontracepcija.lv/lv/kontracepcijas-metodes/#methods-
https://www.optionsforsexualhealth.org/facts/birth-control/
https://www.healthlinkbc.ca/health-topics/hw138685
https://www.whi.org/about/SitePages/HT.aspx
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12287157
คำว่า 'เซ็กซ์ติ้ง' เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า 'sex' และ 'texting' โดยเซ็กซ์ติ้งหมายถึงการส่งเนื้อหาลามกทางเพศให้กับผู้อื่นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
เรื่องเพศเป็นมากกว่าแค่ 'จุดสุดยอด' ประสบการณ์ทั้งกระบวน—การเล้าโลม มีเพศสัมพันธ์ และช่วงอารมณ์หอมหวานหลังเสร็จกิจ—ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความสุขเฉพาะตัว แน่นอนว่าการถึงจุดสุดยอดวิเศษมาก แต่สำหรับบางคน การปลุกเร้าอารมณ์อย่างเข้มข้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้
สรีรวิทยา จิตวิทยา ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การเลี้ยงดู และประสบการณ์ในอดีต ล้วนส่งผลต่อเรื่องเพศของเรา อย่างไรก็ตาม แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของระดับฮอร์โมนก็อาจมีผลต่อทั้งความต้องการทางเพศและภาวะเจริญพันธุ์ได้เช่นกัน