New! Sign in to manage your account, view your records, download reports (PDF/CSV), and view your backups. Sign in here!
Share this article:

อาการโคลิกในผู้ใหญ่หมายถึงอะไร

โคลิกเป็นภาวะที่เป็นที่รู้จักกันดีในทารกวัยแรกเกิด แม้เด็กจะมีสุขภาพแข็งแรงดีแต่บางครั้งอาจร้องไห้ไม่หยุดโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกของชีวิต ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอาการปวดท้อง คำว่าโคลิกยังนำมาใช้อธิบายอาการปวดท้องเฉียบพลัน ซ้ำ ๆ โดยไม่สามารถระบุสาเหตุได้ในผู้ใหญ่เช่นกัน

คู่มือภาพประกอบแนะนำการรับมืออาการปวดท้องเฉียบพลันซ้ำ ๆ พร้อมแนวคิดและวิธีดูแลสำหรับอาการนี้

แม้ว่าปัจจุบันความรู้ทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปมาก แต่การวินิจฉัยและรักษาอาการปวดท้องก็ยังคงเป็นเรื่องซับซ้อน พบได้ในผู้หญิงและผู้ชายทุกช่วงวัย และมีสาเหตุหลากหลาย นอกจากนี้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (non-steroidal anti-inflammatory drugs) หลายชนิดยังสามารถทำร้ายทางเดินอาหารได้อีกด้วย

หากคุณมีอาการปวดท้องเฉียบพลันเกิดซ้ำและเป็นนานหลายชั่วโมง แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากจุดใดและวิธีรักษาแบบเดิม ๆ ก็ไม่ช่วย อาการนี้อาจเป็นโคลิกในผู้ใหญ่ประเภทหนึ่ง

อาการปวดนั้นอธิบายเป็นรูปธรรมได้ยากมาก คำที่เราใช้อย่าง – แหลม เสียว แสบ ปวดตื้อ ปวดล้า – อาจให้ความหมายแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น ช่องท้องยังเป็นที่อยู่ของอวัยวะสำคัญมากมายซึ่งอยู่ใกล้กันมาก จึงยิ่งทำให้หาสาเหตุของอาการได้ยาก

“โคลิก” เป็นคำทั่วไปที่ใช้บรรยายอาการปวดซ้ำ ๆ โดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน บางครั้งใช้คำว่า functional abdominal pain หรืออาการปวดท้องจากการทำงานผิดปกติร่วมด้วย

โคลิกในทารก

เมื่อทารกเกิดอาการงอแงและร้องไห้ติดต่อกันเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน ๆ ทั้งที่ความต้องการพื้นฐานต่าง ๆ ได้รับการดูแลแล้ว มักเรียกอาการนี้ว่าโคลิก

สาเหตุที่แท้จริงของโคลิกในทารกมักระบุได้ยาก แต่โดยมากเกี่ยวข้องกับการไม่สบายท้อง อาการที่พบได้แก่ กำมือแน่น งอหลัง และดึงขามาแนบท้อง อีกทั้งทารกที่มีอาการนี้มักผายลมบ่อยด้วย

การปรับตัวกับโลกภายนอกมดลูกและเริ่มกินน้ำนมหรือสูตรนมใหม่ ๆ อาจเป็นเรื่องท้าทายต่อระบบทางเดินอาหารของทารก ปัจจัยที่เป็นสาเหตุอาจได้แก่ ระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ ภูมิแพ้หรือแพ้อาหาร สมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ผิดปกติ การป้อนนมมากหรือน้อยไปหรือเรอไม่เพียงพอ และความเครียดในครอบครัว

ส่วนใหญ่โคลิกในทารกจะหายไปเมื่ออายุ 3–4 เดือน แต่อาการนี้สร้างความเหนื่อยล้าและเครียดให้ทุกคนในบ้านแต่ละเดือนไม่น้อย ในอดีตเคยแนะนำให้ปล่อยทารกที่มีโคลิกร้องไปเอง แต่ปัจจุบันมีวิธีรับมือหลากหลายที่ช่วยบรรเทาความไม่สบายและความเจ็บปวด แพทย์สามารถแนะนำวิธีที่เหมาะสมได้ อย่ามองข้ามความเจ็บปวดและความไม่สบาย ไม่ว่าจะในทารกหรือผู้ใหญ่ เพียงเพราะไม่เห็นสาเหตุชัดเจน 


น่าเสียดายที่อาการปวดท้องในทารกและผู้ใหญ่—โดยเฉพาะในผู้หญิง—มักถูกมองข้าม ส่งผลให้โรคร้ายแรงบางชนิดไม่ได้รับการวินิจฉัยตามเวลา

โคลิกในผู้ใหญ่

ในผู้ใหญ่ อาการโคลิกมักแสดงแบบปวดบิดหรือปวดเกร็งในท้อง ซึ่งตำแหน่งอาจเปลี่ยนไปหรือปวดกระจายได้ อาจรู้สึกไม่สบายช่องท้องหรือปวดเฉียบพลันเป็นพัก ๆ โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากจุดใด

ปวดท้องถือเป็นเรื่องปกติไหม

ภาวะไม่สบายทางเดินอาหารหรือปวดท้องเป็นอาการปกติที่ทุกคนเคยเจอ เราทุกคนอาจเคยกินอาหารบางชนิดที่ร่างกายไม่ยอมรับ—โดยเฉพาะเวลาเดินทางหรือทดลองของแปลกใหม่ บางคนก็มีอาการแพ้หรือไวต่ออาหารที่ก่อให้เกิดปวดท้อง

ปัจจัยในชีวิตประจำวัน อาหาร และความเครียด ล้วนมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร สาเหตุหลักที่ทำให้ปวดท้อง ได้แก่:

  • แพ้อาหารบางชนิด
  • กินอาหารมากเกินไป
  • อาหารไม่ย่อย
  • แก๊สในลำไส้
  • ความเครียด
  • ปวดท้องประจำเดือน
  • เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรืออาหารแบบฉับพลัน


ส่วนใหญ่แล้วอาการปวดท้องมักเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและหายเองได้ เพียงปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือใช้ยาบรรเทาเบื้องต้นตามร้านขายยา

แต่หากปวดหรือไม่สบายในท้องเป็นรุนแรงหรือเรื้อรัง คุณควรหาสาเหตุ

ชนิดของโคลิกในผู้ใหญ่

โคลิกในผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น renal colic (ปวดท้องเพราะไต), biliary colic (ปวดท้องเพราะถุงน้ำดี), หรือ intestinal colic (ปวดท้องเพราะลำไส้) ตามต้นตอของอาการปวด

คู่มือภาพประกอบเรื่อง Renal Colic แสดงอาการและแนวทางดูแลผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตหรือติดขัดทางเดินปัสสาวะ


Renal colic

Renal colic คือ อาการปวดเฉียบพลันบริเวณเอวหรือปีกไต ซึ่งโดยมากเกิดจากนิ่วในไต (หรือ renal calculi, nephrolithiasis, หรือ urolithiasis) ซึ่งนิ่วเหล่านี้เป็นก้อนผลึกขนาดเล็กเกิดจากเกลือแร่และกรดในปัสสาวะ มีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายจนถึงก้อนเล็ก ๆ เมื่อเดินทางไปตามทางเดินปัสสาวะอาจทำให้ปวดรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน หรือปัสสาวะมีเลือด

นิ่วในไตเกิดได้จากการรับประทานอาหาร พันธุกรรม หรือดื่มน้ำน้อย ขณะขับนิ่วออกมานั้นจะรู้สึกเจ็บมากแต่มีทางเลือกในการรับการรักษาหรือสลายนิ่ว หากปวดรุนแรง จำเป็นต้องผ่าตัด

การป้องกันนิ่วในไตที่ดีที่สุดคือดื่มน้ำให้เพียงพอและปรับอาหารอย่างเหมาะสม

อาการปวดใกล้ตำแหน่งไตอาจเป็นสัญญาณของติดเชื้อในไตหรือทางเดินปัสสาวะด้วย หากติดเชื้อหรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต ควรใช้ยาแก้ปวดเฉพาะที่แพทย์แนะนำเท่านั้น เพราะยาบางชนิดเช่น ibuprofen, naproxen หรือ aspirin ขนาดสูง อาจทำให้ไตอักเสบมากขึ้น

Biliary colic

Biliary colic คือ อาการปวดท้องขั้นรุนแรงที่เกิดจากการอุดตันหรือการระคายเคืองถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดีแบบชั่วคราว

น้ำดีเป็นของเหลวที่ตับสร้างขึ้นเพื่อช่วยย่อยไขมัน ปกติจะถูกเก็บไว้ในถุงน้ำดีจนกว่าจะใช้งาน นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากน้ำดีที่ตกตะกอนแข็งตัว อาจเกิดเพราะความไม่สมดุลของสารต่าง ๆ ในน้ำดี เช่น คอเลสเตอรอลหรือบิลิรูบินมากเกินไป หรือน้ำดีมีเกลือน้อยไป นิ่วชนิดนี้พบได้ทั่วไปและโดยมากไม่ก่อปัญหารุนแรง แต่หากอุดตันท่อน้ำดี จะเกิดอาการปวดโคลิกนี้ขึ้น

“นิ่วถุงน้ำดี” มักเกิดขึ้นตอนกลางคืนหรือมื้อเย็นหลังทานอาหารมัน ไม่ใช่เพราะตื่นกลัว แต่เพราะถุงน้ำดีบีบตัวเพื่อย่อยไขมัน

Biliary colic มีลักษณะปวดเกร็ง ปวดบิด เฉียบพลันตรงท้องด้านขวาบนหรือกึ่งกลางเหนือสะดือ (บริเวณตับและถุงน้ำดี) อาจร้าวไปที่หลังหรือหัวไหล่ขวา รวมถึงคลื่นไส้หรืออาเจียน และไม่หายหลังเข้าห้องน้ำหรือพยายามวิธีบรรเทาแบบทั่ว ๆ ไป

หากอาการปวดยาวเกิน 8 ชั่วโมง หรือมีดีซ่านหรืออาการรุนแรงอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์

คู่มือภาพประกอบเรื่อง Intestinal Colic แสดงอาการและแนวทางดูแลอาการปวดท้องจากการผิดปกติของทางเดินอาหาร


Intestinal colic

Intestinal colic หมายถึงอาการปวดท้องเฉียบพลันหรือปวดบิด ซึ่งมักเกิดจากการบีบตัวของลำไส้ เช่น มีแก๊ส อาหารไม่ย่อย ท้องผูก หรือปัญหาในระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ ลักษณะอาการคือปวดรุนแรงมาเป็นระลอก ๆ โดยเฉพาะท้องน้อยด้านล่าง

โคลิกชนิดนี้มักมาคู่กับท้องอืด เปลี่ยนแปลงการขับถ่าย หรือแน่นท้อง ถึงแม้โดยมากจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและหายได้เอง แต่หากมีอาการเป็นซ้ำหรือรุนแรงอาจเกี่ยวข้องกับโรคทางเดินอาหารซ่อนเร้น เช่น ลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือโรคลำไส้อักเสบ (IBD)


เนื่องจากบริเวณท้องของเรามีอวัยวะสำคัญมากมาย หากมีอาการปวดลักษณะนี้อย่าเพิกเฉย

วิธีดูแลรักษาอาการโคลิก

การเลือกวิธีรักษาควรขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการปวด

หากโคลิกของคุณร่วมกับอาการ ปวดต่อเนื่อง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลง มีเลือดออกปนในอุจจาระ หรือ อาการรุนแรงอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย แพทย์อาจตรวจร่างกาย ตรวจเลือด อัลตร้าซาวด์ และอื่น ๆ เพื่อแยกโรคที่รุนแรงกว่า เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ลำไส้อักเสบ นิ่วในไต นิ่วในถุงน้ำดี ฯลฯ

แต่หากโคลิกไม่รุนแรง วิธีแก้ไขเบื้องต้น ได้แก่:

  • ดื่มน้ำให้มาก
  • หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ด กาแฟ แอลกอฮอล์ หรืออาหารและเครื่องดื่มที่ร่างกายไม่ยอมรับ
  • เลือกทานอาหารอ่อน ๆ อย่างข้าวต้ม กล้วย จนกว่าจะดีขึ้น
  • ประคบร้อนที่ท้องด้วยถุงน้ำร้อน
  • เติมขิงในอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อช่วยให้ย่อยอาหารดีขึ้น

ยาสามัญประจำบ้าน เช่น bismuth subsalicylate (Pepto-Bismol) สำหรับอาการอาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือท้องอืด, activated carbon, simethicone, หรือ diosmectite (Smecta) สำหรับลดแก๊สและท้องอืด และ พาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวด ทั้งนี้หากคุณเป็นโรคตับหรือโรคไต กรุณาปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

Advertisement


ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การแก้ปัญหาปวดเรื้อรังต้องอาศัยการปรับพฤติกรรมระยะยาว เช่น ทานอาหารครบคุณค่า เคลื่อนไหวร่างกายให้พอเพียง และพักผ่อนคลายความเครียด อาหารเสริมหรือโปรไบโอติกก็ช่วยลดปัญหาระบบทางเดินอาหารได้

ควร:

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวกระตุ้น
  • ลดหรือจัดการความเครียด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจสอบและแก้ไขสาเหตุลึก ๆ เช่น นิ่วในไต นิ่วในถุงน้ำดี หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ


ใช้ยาแก้ปวด ยาต้านอักเสบ และวิธีธรรมชาติเพื่อบรรเทาเมื่อมีอาการ

แม้อาการปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ อาจไม่ใช่โรคร้าย แต่ก็ไม่ควรนิ่งเฉย คุณสามารถดูแลและบรรเทาอาการนี้ได้เพื่อใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณภาพขึ้น

ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้ววันนี้:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

สำรวจบน AppGallery

Share this article:
https://www.medicalnewstoday.com/articles/colic-in-adults
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK431091/
https://www.american-hospital.org/en/pathologie/renal-colic-and-kidney-stones
https://www.healthline.com/health/colicky-pain
https://www.nhs.uk/conditions/gallstones/symptoms/
https://www.nhs.uk/conditions/colic/
https://www.topdoctors.co.uk/medical-dictionary/colic
https://www.medicalnewstoday.com/articles/322047
Advertisement


ร่างกายสะท้อนวิถีชีวิตของเรา และสำหรับคนส่วนใหญ่ ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยเวลาหน้าจอ การใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนส่งผลให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณคอและไหล่ ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ท่าทางที่ไม่ถูกต้องไม่ใช่แค่ปัญหาด้านรูปลักษณ์ แต่ก่อโรคได้จริง เช่น ไมเกรนและปวดไหล่
เบาหวานเป็นภาวะสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อชีวิตซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก ผู้หญิงที่เป็นเบาหวานจะไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เซลล์ของร่างกายดูดซึมกลูโคสจากกระแสเลือดและเปลี่ยนเป็นพลังงาน การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานสำหรับตัวเองหรือคนที่รักอาจเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สามารถดูแลจัดการภาวะนี้และมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน
เชื้อราในช่องคลอด หรือการติดเชื้อราในช่องคลอด (เรียกอีกอย่างว่า แคนดิดา เวลวาโววาจิไนติส, ตกขาวแบบเชื้อรา, หรือแคนดิแดซิส) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก งานวิจัยพบเชื้อราในสารคัดหลั่งช่องคลอดถึงประมาณ 20% ในห้องปฏิบัติการ ความเจ็บปวดและความไม่สบายที่เกิดขึ้นจากภาวะนี้ มักต้องการการรักษาทางการแพทย์โดยทันที