New! Sign in to manage your account, view your records, download reports (PDF/CSV), and view your backups. Sign in here!
Share this article:

ภาวะสมองล้า ก่อนมีประจำเดือน: ทำอย่างไรให้สมองปลอดโปร่งขึ้น

ภาวะสมองล้า (Brain Fog) เป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดได้กับทุกคน จากการนอนไม่พอ รับยาบางชนิด หรือความเหนื่อยจากการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงจำนวนมากมักจะมีภาวะสมองล้าก่อนมีประจำเดือน และบางครั้งอาการรุนแรงจนอาจรบกวนชีวิตประจำวันได้เลย

การเพิ่มความปลอดโปร่งทางความคิดเมื่อต้องเผชิญกับสมองล้าช่วงมีประจำเดือน

ภาวะสมองล้าก่อนมีประจำเดือน มักจะมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) ที่อย่างน้อยก็สร้างความรำคาญใจได้ ในบางกรณีที่รุนแรง สมองที่จับจดไม่ติดหรือขาดสมาธิ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

PMS คืออะไร?

ก่อนจะพูดถึงสมองล้า ลองมาทบทวนกันก่อนว่ากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) คืออะไร และเหตุใดจึงทำให้สาว ๆ หลายคนต้องเผชิญกับอาการไม่สบายตัวต่าง ๆ อาจหาผู้หญิงที่ไม่เคยมีอาการ PMS เลยแทบไม่ได้


มากถึง 90% ของผู้มีประจำเดือนเคยมีอาการ PMS อย่างน้อยหนึ่งครั้งตลอดชีวิต

โดยปกติแล้ว อาการ PMS จะเกิดขึ้นแบบเบา ๆ ก่อนประจำเดือนมาไม่กี่วัน แต่สำหรับบางคน อาการเหล่านี้อาจรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวันได้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รอบเดือน

แม้จะพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า PMS จะเป็นเรื่องปกติที่ควรปล่อยผ่าน โดยเฉพาะหากอาการรุนแรง


อาการ PMS ที่พบบ่อยได้แก่ เจ็บเต้านม ปวดท้อง บวมตามแขนขา อุ้มน้ำ ท้องอืด ท้องผูก อารมณ์แปรปรวน เหนื่อยล้า และนอนไม่หลับ

สำหรับบางกรณีที่รุนแรง เช่นกลุ่มอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน (PMDD) ซึ่งรุนแรงกว่าปกติ จะพบอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรง ปวดเกร็ง คลื่นไส้ สุขภาพจิตถอยหลัง หดหู่ รวมถึง ภาวะวิตกกังวล

และหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยก็คือ ภาวะสมองล้า

สมองล้าก่อนมีประจำเดือนคืออะไร?

ภาวะสมองล้าเป็นสภาวะที่รู้สึกมึน ๆ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ขาดสมาธิ อึน ๆ ไม่ตัดสินใจ ไม่กระตือรือร้น แม้ว่า PMS จะไม่ใช่สาเหตุเดียวของสมองล้า แต่ยังมีภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น กลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือโรคทางจิตเวชบางอย่าง

แพทย์ยังไม่เห็นพ้องกันแน่ชัดว่า PMS เชื่อมโยงกับสมองล้าหรือไม่ และแม้งานวิจัยบางชิ้นจะไม่พบความเชื่อมโยง แต่หลาย ๆ คนก็ยังประสบอาการนี้เช่นกัน อาจเป็นเพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้สมองไม่ปลอดโปร่ง หรือไม่ใช่เพียงแค่ PMS อย่างเดียว

สาเหตุของภาวะสมองล้า

การนอนหลับไม่ดี ก่อนประจำเดือนจะมา หนึ่งในอาการของ PMS คือ นอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่มีคุณภาพ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้คนนอนหลับยากก่อนมีประจำเดือน แต่รู้ว่าในช่วงลูทีลของวัฏจักรประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนรบกวนวงจรการนอน ทำให้นอนหลับไม่ต่อเนื่อง

ดังนั้นหากคุณนอนไม่พอ สมองในช่วงกลางวันก็จะไม่เฉียบคมเท่าเดิม

โภชนาการไม่เพียงพอ สมองของคุณใช้พลังงานสูงมาก และต้องอาศัยสารอาหารที่ครบถ้วนทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ หากร่างกายเตรียมตัวสำหรับประจำเดือนซึ่งต้องใช้พลังงานสูง และ คุณรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือขาดสารอาหาร อาจไม่มีพลังงานสำหรับการทำงานของสมองที่ดี

สาว ๆ ที่มีอาการแพ้อาหาร เช่น ถั่ว นม หรือกลูเตน มักจะรู้สึกอึน ๆ หลังอาหาร หรือถ้าเมตาบอลิซึมช้ากว่าปกติ ก็จะมีอาการสมองล้าบ่อยหลังมื้ออาหาร ซึ่งหากเป็นกรณีนี้คุณจะมีสมองล้าและอ่อนเพลียทั้งเดือน ไม่ใช่แค่ก่อนมีประจำเดือน

ยา ยาหลายชนิดส่งผลให้คุณง่วงเข้าและสมองล้า เช่น ยากลุ่มต้านเศร้า ยาแก้แพ้ หรือยารักษามะเร็งบางชนิด ก็ทำให้สมาธิลดลงและรู้สึกช้า แม้จะอาจจะรู้สึกหนักขึ้นก่อนประจำเดือน แต่อาการจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักหากสมองล้าเกิดจากผลข้างเคียงของยา

บริหารจัดการความท้าทายของภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล


ซึมเศร้าและวิตกกังวล โรคซึมเศร้าแสดงออกด้วยอาการชา เศร้า ไม่สนุกกับกิจกรรมประจำวัน และสมองล้า ภาวะวิตกกังวลที่มักมาคู่กันก็เผาผลาญพลังงานจิตใจไปมาก เพราะต้องคอยรับมือกับความคิดที่เข้ามารบกวน อาการสมองล้ามักเกิดจากสารเคมีในสมองที่เปลี่ยนแปลง

ความคิดวิตกกังวลยังไปรบกวนความคิด การจดจ่อ และทำให้คุณรู้สึกหนักใจและจดจ่อกับอะไรไม่ได้ บางคนอาจมีอาการซึมเศร้าหนักขึ้น วิตกกังวล และกินจุบจิบก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเรียกว่า premenstrual exacerbation (PME) มีลักษณะสุขภาพจิตแย่ลงช่วงก่อนมีประจำเดือน

โรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางคือสภาวะที่เลือดมีเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอที่จะขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย เมื่อสมองขาดออกซิเจน ก็จะเวียนหัว เหนื่อยง่าย และสมองล้า ก่อนและ ระหว่างมีประจำเดือน ร่างกายจะใช้งานหนักขึ้นและเสียเลือดไปหลายวัน

โลหิตจางมักเกิดจากร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไม่ได้ดี หรือขาดธาตุเหล็ก หากอาหารของคุณขาดแร่ธาตุเหล่านี้ จะเสี่ยงต่อโรคโลหิตจางมากขึ้น

จะทำอย่างไรให้สมองปลอดโปร่ง?

สมองล้าและขาดสมาธิไม่ใช่แค่น่ารำคาญ แต่ยังลดคุณภาพชีวิตและการทำงาน หากสมองล้าไม่ได้เกิดจากโรคหรือผลข้างเคียงของยา คุณอาจเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงรอบเดือน

นอนให้มากขึ้น การนอนหลับเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพ แม้การแก้อาการนอนไม่หลับจะไม่ง่าย แต่มีวิธีที่ช่วยทำให้หลับได้เร็วขึ้นและหลับลึกขึ้น ลองฝึกตัวเองให้นอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทั้งวันธรรมดาและวันหยุด จะช่วยกระตุ้นวงจรนอนของร่างกาย และเมื่อตื่นในเวลาเดิมทุกวัน คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้น

แนะนำให้ลดสิ่งเร้าทางสมองก่อนนอน งดเล่นโทรศัพท์หรือดูหนังเครียด วิธีผ่อนคลายที่ดีคือ ลดแสงสว่าง เก็บหน้าจอให้พ้นสายตาสัก 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน แล้วเลือกอ่านหนังสือ ทำสมาธิ เขียนไดอารี่ หรือแช่น้ำอุ่นก็ช่วยได้

ถ้ายังหลับยาก ลองสมุนไพรหรือวิตามินที่ช่วยให้นอนหลับ เช่น แมกนีเซียม ชาลาเวนเดอร์ ชาคาโมมายล์ (ยังช่วยลดปวดท้องประจำเดือน) หรือเมลาโทนิน หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาช่วยนอนหลับ

Advertisement


ขยับร่างกาย การเคลื่อนไหวและออกกำลังกายช่วยกระตุ้นร่างกายและสมอง ทำให้ร่างกายใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ แสงแดด และเคลื่อนไหวระหว่างวัน จะส่งผลดีต่อสมองและช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

แม้ว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนจะขาดแรงจูงใจในการขยับตัว แต่ยิ่งขยับ ยิ่งมีพลังงานมากขึ้น ไม่ควรหักโหม เลือกออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ เดิน หรือเวทเทรนนิ่งเบา ๆ จะเหมาะกับช่วงก่อนมีประจำเดือน

ร่างกายของเราสอดคล้องกับธรรมชาติ ถ้าคุณนั่งอยู่ในที่มืดทั้งวัน ร่างกายจะรู้สึกง่วงและสมองล้าเพราะเข้าใจว่าเป็นช่วงพักผ่อน ตอนกลางคืนแสงไฟประดิษฐ์ก็รบกวนวงจรธรรมชาติของร่างกายอีกเช่นกัน

รับวิตามินให้เพียงพอ สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานสูงสุดในร่างกาย ต้องการสารอาหารและวิตามินสำคัญอย่าง วิตามินบี ในกลุ่มต่าง ๆ ช่วยให้อารมณ์ดี สมองสมดุลยาวนาน วิตามินดี ช่วยควบคุมอารมณ์และเพิ่มสมาธิ แมกนีเซียม สำคัญกับระบบประสาทและคุณภาพการนอน สังกะสี กับ กรดไขมันโอเมกา ก็ช่วยลดการอักเสบและเสริมสมองแข็งแรง

อาหารที่สมดุลควรให้สารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอ แต่ถ้าอาการสมองล้าหรือ PMS รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุ

ตรวจเช็กความสมดุลของฮอร์โมน หากสมองล้ามาจาก PMS อาจเกิดจากฮอร์โมนผิดปกติ โดยเฉพาะ
พรอสเจสเตอโรนต่ำหรือเอสโตรเจนสูงเกิน นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) สูง มักสมองล้าบ่อยกว่าปกติ

แม้ปัญหาฮอร์โมนบางอย่างอาจรักษาไม่หายขาดแต่สามารถควบคุมได้ แพทย์อาจให้ฮอร์โมนบำบัด หรือแนะนำปรับพฤติกรรม แต่คุณก็สามารถดูแลตัวเองด้วยการกินดี ออกกำลังกายเบา ๆ และนอนหลับเพียงพอเพื่อส่งเสริมสมองและร่างกาย

คุณสามารถติดตามประจำเดือนของคุณได้ง่าย ๆ ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย:

ดาวน์โหลดทาง App Store

ดาวน์โหลดผ่าน Google Play

Share this article:
https://www.womenshealth.gov/menstrual-cycle/premenstrual-syndrome
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32378938/
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fnbeh.2017.00120/full
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28239684/
https://www.nm.org/healthbeat/healthy-tips/nutrition/10-vitamins-and-minerals-that-boost-brain-and-heart-health-infographic
Advertisement


ทุกคนมีกลิ่นตัว และกลิ่นเฉพาะตัวเป็นส่วนหนึ่งตามธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง การมีกลิ่นตัวแรงอาจกลายเป็นปัญหาในการสื่อสารระหว่างบุคคลได้ และการเปลี่ยนแปลงกลิ่นตัวโดยกะทันหันอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพแอบแฝง หรือในบางกรณี อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายก็ได้
เขาว่ากันว่าเราคือสิ่งที่เรากิน ความคิดนี้มีประโยชน์ หากเราได้ตระหนักจริงๆ ว่าเราทานอะไรเข้าไป (ซึ่งบ่อยครั้งเราไม่รู้) หลายคนรู้สึกถูกดึงดูดใจที่จะพึ่งแต่แหล่งข้อมูลภายนอกในการหา 'วัตถุดิบวิเศษ' ที่เหมือนจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างของชีวิตได้
ความรู้สึกหนาวเป็นสัญญาณจากร่างกายที่บอกว่าคุณควรจะขยับตัวหรือหาผ้าห่มมาคลุม หากคุณรู้สึกหนาวโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน—ทั่วทั้งตัว มือและเท้า หรือเฉพาะบางส่วนของร่างกาย อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพแฝงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงมักจะไวต่อความหนาวมากกว่าผู้ชายเนื่องจากกระบวนการทางสรีรวิทยาตามธรรมชาติ