ภาวะสมองล้า (Brain Fog) เป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดได้กับทุกคน จากการนอนไม่พอ รับยาบางชนิด หรือความเหนื่อยจากการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงจำนวนมากมักจะมีภาวะสมองล้าก่อนมีประจำเดือน และบางครั้งอาการรุนแรงจนอาจรบกวนชีวิตประจำวันได้เลย
ภาวะสมองล้าก่อนมีประจำเดือน มักจะมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) ที่อย่างน้อยก็สร้างความรำคาญใจได้ ในบางกรณีที่รุนแรง สมองที่จับจดไม่ติดหรือขาดสมาธิ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน
ก่อนจะพูดถึงสมองล้า ลองมาทบทวนกันก่อนว่ากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) คืออะไร และเหตุใดจึงทำให้สาว ๆ หลายคนต้องเผชิญกับอาการไม่สบายตัวต่าง ๆ อาจหาผู้หญิงที่ไม่เคยมีอาการ PMS เลยแทบไม่ได้
โดยปกติแล้ว อาการ PMS จะเกิดขึ้นแบบเบา ๆ ก่อนประจำเดือนมาไม่กี่วัน แต่สำหรับบางคน อาการเหล่านี้อาจรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวันได้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รอบเดือน
แม้จะพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า PMS จะเป็นเรื่องปกติที่ควรปล่อยผ่าน โดยเฉพาะหากอาการรุนแรง
สำหรับบางกรณีที่รุนแรง เช่นกลุ่มอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน (PMDD) ซึ่งรุนแรงกว่าปกติ จะพบอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรง ปวดเกร็ง คลื่นไส้ สุขภาพจิตถอยหลัง หดหู่ รวมถึง ภาวะวิตกกังวล
และหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยก็คือ ภาวะสมองล้า
ภาวะสมองล้าเป็นสภาวะที่รู้สึกมึน ๆ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ขาดสมาธิ อึน ๆ ไม่ตัดสินใจ ไม่กระตือรือร้น แม้ว่า PMS จะไม่ใช่สาเหตุเดียวของสมองล้า แต่ยังมีภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น กลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือโรคทางจิตเวชบางอย่าง
แพทย์ยังไม่เห็นพ้องกันแน่ชัดว่า PMS เชื่อมโยงกับสมองล้าหรือไม่ และแม้งานวิจัยบางชิ้นจะไม่พบความเชื่อมโยง แต่หลาย ๆ คนก็ยังประสบอาการนี้เช่นกัน อาจเป็นเพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้สมองไม่ปลอดโปร่ง หรือไม่ใช่เพียงแค่ PMS อย่างเดียว
การนอนหลับไม่ดี ก่อนประจำเดือนจะมา หนึ่งในอาการของ PMS คือ นอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่มีคุณภาพ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้คนนอนหลับยากก่อนมีประจำเดือน แต่รู้ว่าในช่วงลูทีลของวัฏจักรประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนรบกวนวงจรการนอน ทำให้นอนหลับไม่ต่อเนื่อง
ดังนั้นหากคุณนอนไม่พอ สมองในช่วงกลางวันก็จะไม่เฉียบคมเท่าเดิม
โภชนาการไม่เพียงพอ สมองของคุณใช้พลังงานสูงมาก และต้องอาศัยสารอาหารที่ครบถ้วนทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ หากร่างกายเตรียมตัวสำหรับประจำเดือนซึ่งต้องใช้พลังงานสูง และ คุณรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือขาดสารอาหาร อาจไม่มีพลังงานสำหรับการทำงานของสมองที่ดี
สาว ๆ ที่มีอาการแพ้อาหาร เช่น ถั่ว นม หรือกลูเตน มักจะรู้สึกอึน ๆ หลังอาหาร หรือถ้าเมตาบอลิซึมช้ากว่าปกติ ก็จะมีอาการสมองล้าบ่อยหลังมื้ออาหาร ซึ่งหากเป็นกรณีนี้คุณจะมีสมองล้าและอ่อนเพลียทั้งเดือน ไม่ใช่แค่ก่อนมีประจำเดือน
ยา ยาหลายชนิดส่งผลให้คุณง่วงเข้าและสมองล้า เช่น ยากลุ่มต้านเศร้า ยาแก้แพ้ หรือยารักษามะเร็งบางชนิด ก็ทำให้สมาธิลดลงและรู้สึกช้า แม้จะอาจจะรู้สึกหนักขึ้นก่อนประจำเดือน แต่อาการจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักหากสมองล้าเกิดจากผลข้างเคียงของยา
ซึมเศร้าและวิตกกังวล โรคซึมเศร้าแสดงออกด้วยอาการชา เศร้า ไม่สนุกกับกิจกรรมประจำวัน และสมองล้า ภาวะวิตกกังวลที่มักมาคู่กันก็เผาผลาญพลังงานจิตใจไปมาก เพราะต้องคอยรับมือกับความคิดที่เข้ามารบกวน อาการสมองล้ามักเกิดจากสารเคมีในสมองที่เปลี่ยนแปลง
ความคิดวิตกกังวลยังไปรบกวนความคิด การจดจ่อ และทำให้คุณรู้สึกหนักใจและจดจ่อกับอะไรไม่ได้ บางคนอาจมีอาการซึมเศร้าหนักขึ้น วิตกกังวล และกินจุบจิบก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเรียกว่า premenstrual exacerbation (PME) มีลักษณะสุขภาพจิตแย่ลงช่วงก่อนมีประจำเดือน
โรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางคือสภาวะที่เลือดมีเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอที่จะขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย เมื่อสมองขาดออกซิเจน ก็จะเวียนหัว เหนื่อยง่าย และสมองล้า ก่อนและ ระหว่างมีประจำเดือน ร่างกายจะใช้งานหนักขึ้นและเสียเลือดไปหลายวัน
โลหิตจางมักเกิดจากร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไม่ได้ดี หรือขาดธาตุเหล็ก หากอาหารของคุณขาดแร่ธาตุเหล่านี้ จะเสี่ยงต่อโรคโลหิตจางมากขึ้น
สมองล้าและขาดสมาธิไม่ใช่แค่น่ารำคาญ แต่ยังลดคุณภาพชีวิตและการทำงาน หากสมองล้าไม่ได้เกิดจากโรคหรือผลข้างเคียงของยา คุณอาจเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงรอบเดือน
นอนให้มากขึ้น การนอนหลับเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพ แม้การแก้อาการนอนไม่หลับจะไม่ง่าย แต่มีวิธีที่ช่วยทำให้หลับได้เร็วขึ้นและหลับลึกขึ้น ลองฝึกตัวเองให้นอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทั้งวันธรรมดาและวันหยุด จะช่วยกระตุ้นวงจรนอนของร่างกาย และเมื่อตื่นในเวลาเดิมทุกวัน คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้น
แนะนำให้ลดสิ่งเร้าทางสมองก่อนนอน งดเล่นโทรศัพท์หรือดูหนังเครียด วิธีผ่อนคลายที่ดีคือ ลดแสงสว่าง เก็บหน้าจอให้พ้นสายตาสัก 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน แล้วเลือกอ่านหนังสือ ทำสมาธิ เขียนไดอารี่ หรือแช่น้ำอุ่นก็ช่วยได้
ถ้ายังหลับยาก ลองสมุนไพรหรือวิตามินที่ช่วยให้นอนหลับ เช่น แมกนีเซียม ชาลาเวนเดอร์ ชาคาโมมายล์ (ยังช่วยลดปวดท้องประจำเดือน) หรือเมลาโทนิน หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาช่วยนอนหลับ
ขยับร่างกาย การเคลื่อนไหวและออกกำลังกายช่วยกระตุ้นร่างกายและสมอง ทำให้ร่างกายใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ แสงแดด และเคลื่อนไหวระหว่างวัน จะส่งผลดีต่อสมองและช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
แม้ว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนจะขาดแรงจูงใจในการขยับตัว แต่ยิ่งขยับ ยิ่งมีพลังงานมากขึ้น ไม่ควรหักโหม เลือกออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ เดิน หรือเวทเทรนนิ่งเบา ๆ จะเหมาะกับช่วงก่อนมีประจำเดือน
ร่างกายของเราสอดคล้องกับธรรมชาติ ถ้าคุณนั่งอยู่ในที่มืดทั้งวัน ร่างกายจะรู้สึกง่วงและสมองล้าเพราะเข้าใจว่าเป็นช่วงพักผ่อน ตอนกลางคืนแสงไฟประดิษฐ์ก็รบกวนวงจรธรรมชาติของร่างกายอีกเช่นกัน
รับวิตามินให้เพียงพอ สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานสูงสุดในร่างกาย ต้องการสารอาหารและวิตามินสำคัญอย่าง วิตามินบี ในกลุ่มต่าง ๆ ช่วยให้อารมณ์ดี สมองสมดุลยาวนาน วิตามินดี ช่วยควบคุมอารมณ์และเพิ่มสมาธิ แมกนีเซียม สำคัญกับระบบประสาทและคุณภาพการนอน สังกะสี กับ กรดไขมันโอเมกา ก็ช่วยลดการอักเสบและเสริมสมองแข็งแรง
อาหารที่สมดุลควรให้สารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอ แต่ถ้าอาการสมองล้าหรือ PMS รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุ
ตรวจเช็กความสมดุลของฮอร์โมน หากสมองล้ามาจาก PMS อาจเกิดจากฮอร์โมนผิดปกติ โดยเฉพาะ
พรอสเจสเตอโรนต่ำหรือเอสโตรเจนสูงเกิน นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) สูง มักสมองล้าบ่อยกว่าปกติ
แม้ปัญหาฮอร์โมนบางอย่างอาจรักษาไม่หายขาดแต่สามารถควบคุมได้ แพทย์อาจให้ฮอร์โมนบำบัด หรือแนะนำปรับพฤติกรรม แต่คุณก็สามารถดูแลตัวเองด้วยการกินดี ออกกำลังกายเบา ๆ และนอนหลับเพียงพอเพื่อส่งเสริมสมองและร่างกาย
คุณสามารถติดตามประจำเดือนของคุณได้ง่าย ๆ ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย: