ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

ทำไมความฝันก่อนมีประจำเดือนถึงแปลกขนาดนี้

เหตุผลเบื้องหลังความฝันเหนือจริง สีสันสดใส และอารมณ์ร่วมแรงก่อนมีประจำเดือนยังคงเป็นปริศนามาอย่างยาวนาน หลายคนที่มีประจำเดือนมักพบว่าตนเองฝันประหลาด โดดเด่นสุดขีดก่อนจะมีประจำเดือน นี่เป็นผลมาจากฮอร์โมนของเรานั่นเอง

ความฝันประหลาดก่อนมีประจำเดือน - คู่มือภาพอธิบายความลี้ลับและอิทธิพลของฮอร์โมนต่อฝันผิดปกติก่อนรอบเดือน

ผู้หญิงทุกคนฝัน แม้แต่คนที่มักจำความฝันไม่ได้บ่อยๆ แม้ว่าคุณจะจำความฝันไม่ค่อยได้ในแต่ละคืน แต่คุณคงไม่ลืมความฝันก่อนมีประจำเดือนใช่ไหม หากเรื่องนี้ฟังดูคุ้นๆ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว หลายคนรายงานว่ามีความฝันสุดเพี้ยน ชัดเจนเป็นพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว

เราฝันไปทำไม?

มนุษย์สงสัยเรื่องความฝันมาตั้งแต่โบราณ ในหลายวัฒนธรรม ความฝันคือภาพนิมิตจากจิตวิญญาณ หรือข้อความจากบรรพบุรุษที่สามารถทำนายอนาคตหรืออธิบายอดีต มุมมองปัจจุบันคือ ความฝันเป็นภาพในจินตนาการที่เกิดจากสมองส่วนที่เกี่ยวกับความทรงจำซึ่งถูกปลุกขึ้นขณะนอนหลับ เรามักฝันถึงผู้คน สถานที่ หรือสิ่งที่เห็นในชีวิตประจำวัน แต่ภาพเหล่านั้นมักแปรเปลี่ยนหรือปะปนกันในแบบที่คุณคาดไม่ถึง ความทรงจำบันทึกสิ่งที่เราประสบพบเจอ แต่ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนพลิกแพลงได้ บ้างก็ว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไร ความฝันจึงเป็นการสร้างใหม่ของสิ่งเร้าจากภายนอกในแบบเฉพาะของสมองเราเอง

วงจรการนอนหลับ

เรามีวงจรการนอนหลับหลัก 2 แบบ คือ REM (การกลอกตาอย่างรวดเร็ว) และ NREM (ไม่มีการกลอกตา) การนอนหลับแบบ NREM แบ่งลึกเป็น 4 ช่วง โดยช่วงที่ 1 เป็นการนอนที่ตื้นที่สุด และช่วงที่ 4 คือหลับลึกที่สุด ขณะเข้าสู่การนอนเราจะเริ่มที่ NREM ระยะที่ 1 ก่อนจะเข้าสู่ระยะ 2, 3, 4 และจบด้วย REM นับเป็น 1 รอบการนอน โดยแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 90-110 นาที เราต้องการประมาณ 4-6 รอบต่อคืนจึงจะรู้สึกสดชื่นในวันถัดไป นักวิจัยวัดวงจรเหล่านี้จากการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง

  • NREM ระยะที่ 1 โดยปกติใช้เวลา 1–7 นาที หรือราว 2–5% ต่อวงจร กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ชีพจรและอัตราการหายใจช้าลง อุณหภูมิร่างกายลดลง เป็นช่วงที่รู้สึกแปลก กล้ามเนื้ออาจกระตุก และตื่นง่ายหากมีเสียงดัง
  • NREM ระยะที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 10–25 นาที หรือ 45–55% ของวงจร เริ่มปลุกยากขึ้น สำคัญต่อการจัดระเบียบความทรงจำมากที่สุดร่วมกับ REM
  • NREM ระยะที่ 3 คิดเป็น 3–8% ของรอบการนอน
  • สมองเข้าสู่การนอนแบบคลื่นช้า (slow-wave sleep)
  • NREM ระยะที่ 4 ประมาณ 10–15% ของวงจร สมองและระบบร่างกายฟื้นฟู แม้ระยะเวลาสั้นแต่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย
  • REM คือช่วงที่เราฝัน อัตราการเต้นหัวใจ ความดันสมอง และการทำงานของเส้นประสาทซิมพาเทติกสูงขึ้น ในขณะที่กล้ามเนื้อหยุดนิ่งเพื่อกันไม่ให้แสดงท่าทางตามความฝัน ในรอบแรกของคืนช่วง REM จะสั้นและจะยาวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

กิจกรรมของสมองในช่วง REM คล้ายตอนตื่นมาก ผล MRI พบว่า amygdala และ hippocampus (ศูนย์ควบคุมอารมณ์และหน่วยความจำของสมอง) ทำงานอย่างเข้มข้นในช่วงนี้มากกว่าตอนตื่นด้วยซ้ำ ดังนั้นฝันของเรามักมีอารมณ์รุนแรงและฉากต่างๆ จากความทรงจำ ความฝันปรากฏได้ทั้งเสียง ภาพ อารมณ์ หรือแม้กระทั่งความรู้สึก และมักจะรู้สึกเป็นเรื่องส่วนตัวมาก

นักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับให้คำอธิบายว่า แม้หลายฝันจะเป็นเพียงภาพของกิจวัตรประจำวันที่เราพบเจอ แต่บางครั้งก็มีความหมายลึกซึ้งและสะท้อนปัญหาหรือเรื่องที่กำลังเผชิญในชีวิต

เมื่อคุณเครียดหรือวิตกกังวล คุณอาจฝันว่าถูกตามล่า ทำงานไม่ทัน หรือพลาดการประชุมสำคัญ เมื่อคุณอยู่ในสภาวะกดดัน หรือ กำลังเผชิญความท้าทายทางอารมณ์ ก็มีโอกาสฝันร้ายมากขึ้น

นักวิจัยด้านการนอนบางคนเชื่อว่า เราใช้ความฝันในการประมวลผลและจัดการประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน จิตใต้สำนึกจึงช่วยปกป้องจิตรับรู้จากความตึงเครียด ด้วยการกรองหรือแฝงสิ่งที่เรากังวลไว้ในรูปของความฝัน

คู่มือภาพ ทำไมจดจำบางฝันได้ - เจาะปัจจัยที่ส่งผลต่อการจดจำฝันและความลึกลับของความจำในฝัน


ทำไมเราจำบางฝันได้แต่บางฝันลืม?

เรามีแนวโน้มจะจำความฝันที่เกิดก่อนตื่น หรือฝันที่เกิดในช่วง REM ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อตื่นกลางคันขณะ REM ยิ่งนอนนาน ช่วง REM จะยาวขึ้นด้วย จึงยิ่งฝันมากในช่วงก่อนตื่น

และฝันที่มีอารมณ์ร่วมแรงก็มักจะติดอยู่ในใจนาน ถ้าคุณตื่นขึ้นกลางดึกระหว่าง REM เช่นต้องไปเข้าห้องน้ำ มีโอกาสสูงที่จะจำฝันได้ แล้วฝันที่เกิดขึ้นก่อนและระหว่างมีประจำเดือนล่ะ? มันต้องการจะสื่ออะไรกับเราหรือเป็นแค่จินตนาการยามค่ำคืน?

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างรอบเดือน

แม้ประสบการณ์จากภายนอกจะมีผลต่อฝัน แต่ความผันผวนของฮอร์โมนในแต่ละรอบเดือนก็ส่งผลโดยตรงกับความคิดจิตใต้สำนึกและคุณภาพการพักผ่อนของเราเช่นกัน

รอบเดือนแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ได้แก่

  • ระยะมีประจำเดือน
  • ระยะฟอลลิคูลาร์
  • ระยะตกไข่
  • ระยะลูทีนีล

แต่ละระยะระดับฮอร์โมนหลักจะต่างกัน ช่วงเริ่มรอบ—หรือระยะมีประจำเดือน—ฮอร์โมนเพศต่ำสุด

หลังสิ้นสุดวันเลือดออก จะเข้าสู่ระยะฟอลลิคูลาร์ เอสโตรเจนเริ่มสูงขึ้น เอสโตรเจนกับเทสโทสเทอโรนจะ ขึ้นสูงสุดช่วงตกไข่ เมื่อไข่ตก ระยะลูทีนีลเริ่มขึ้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็ว แต่โปรเจสเตอโรนกลับเพิ่มขึ้น

แม้โปรเจสเตอโรนจะจำเป็นสำหรับสุขภาพโดยรวมและการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง แต่ก็สามารถก่อให้เกิด ปัญหาการนอน ได้เช่นกัน งานวิจัยพบว่าโปรเจสเตอโรนที่พุ่งสูงช่วงนี้ จะทำให้วงจร REM สั้นลงและการนอนถูกรบกวนง่ายขึ้น ในระยะลูทีนีลก่อนประจำเดือน คุณอาจนอนหลับยาก ตื่นบ่อย หรือรู้สึกตื่นสายเกินไป

อีกปัจจัยที่กระทบต่อการนอนและคุณภาพฝันคืออุณหภูมิแกนกลางร่างกาย ซึ่งจะ สูงขึ้นหลายวันก่อนประจำเดือนมาถึง ความร้อนนี้ไปขัดขวางการนอน REM เช่นเดียวกับที่เราอาจฝันแปลกๆ เมื่อตัวมีไข้

ฝันแรงกับฮอร์โมนที่แกว่ง

มีผู้หญิงจำนวนมากรายงานว่าตนเองมีความฝันที่สดใส ประหลาด หรือแม้แต่ฝันร้ายก่อนประจำเดือน โดยส่วนใหญ่ความฝันเหล่านี้จะออกจะแปลกประหลาดเสียมาก มีหญิงสาวแชร์ประสบการณ์ฝันก่อนประจำเดือนใน Reddit เช่น ฝันว่าต้องเข้าห้องน้ำหรือตกเลือดเริ่มมีประจำเดือนจริงๆ ฝันว่าติดโคลน โดนสัตว์ประหลาดไล่ หรือฝันว่าฟันเจ็บ ฟันหลุด

สิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เห็นตรงกันคือช่วงก่อนประจำเดือน ฝันจะชัดเจนและจดจำได้มากขึ้น

และนี่ไม่ใช่แค่ระยะเดียวเท่านั้นที่ฝันจะแปลก ผู้หญิงหลายคนยังพบว่าฝันแรงขึ้นได้ในช่วงคืนก่อนตกไข่ด้วย แต่ฝันในช่วงนี้จะแง่บวกหรือสนุกกว่า เพราะแรงขับทางเพศในช่วงตกไข่จะสูง อาจพบว่าตัวเองฝันถึงเหตุการณ์โรแมนติกหรือฉากเซ็กซี่ได้

วิธีนอนหลับดีขึ้นก่อนมีประจำเดือน

แม้ทุกคนจะอยากได้ความฝันดีๆ แต่ฝันร้ายหรือนอนหลับไม่สนิทก็มีผลต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ในวันถัดไป ดีที่ยังมีวิธีง่ายๆ เพื่อปรับคุณภาพการนอนและลดผลกระทบของฮอร์โมนได้

จัดเวลานอนให้สม่ำเสมอ

สมองของเราชอบสิ่งที่เป็นกิจวัตร หากไปเข้านอนเวลาเดิมทุกคืน ในไม่ช้าร่างกายจะเริ่มเคยชิน รู้สึกง่วงอัตโนมัติ สมองจะควบคุมระบบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นเมื่อมีตารางชีวิตที่แน่นอน ต่อมไพเนียล จะปล่อยฮอร์โมน เมลาโทนิน ตามเวลาที่เหมาะสมเพื่อกล่อมให้ง่วง เมื่อตื่นตามเวลาเดิมทุกเช้า สมองก็จะปรับวงจรการนอนหลับให้เหมาะกับกิจวัตร ร่างกายจึงสดชื่นขึ้น

ออกกำลังกายกลางวัน

การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในค่ำคืน ช่วยลดความแปรปรวนของฮอร์โมน ทำให้เหนื่อยง่ายและง่วงหลับสบายมากขึ้น

สร้างกิจวัตรผ่อนคลายก่อนนอน

ถ้าอยากหลับลึก ลองหากิจวัตรเย็นๆ แบบง่ายๆ ก่อนนอนเพื่อส่งสัญญาณให้สมองเตรียมพร้อม คุณอาจเขียนบันทึก วางแผนวันถัดไป เดินเล่น ยืดตัว ทำสมาธิ หรือแช่น้ำอุ่นก่อนนอนก็ได้ หรือจะหากิจกรรมผ่อนคลายใจ เช่น พูดคุยกับคนสำคัญ มองสิ่งดีๆ หรืออ่านหนังสือที่ชอบ

Advertisement


จิบชาสมุนไพร

หากคุณมีปัญหาง่วงยากหรือ วิตกกังวลมากขึ้นก่อนประจำเดือน ชาสมุนไพรบางชนิดช่วยได้ อย่างชาเลมอนบาล์ม คาโมมายล์ ลาเวนเดอร์ วาเลอเรียน หรือแพสชั่นฟลาวเวอร์ เหมาะสำหรับผ่อนคลาย หากดื่มช่วงบ่ายแก่ๆ จะดีอย่างยิ่ง

แต่ถ้าดื่มน้ำหรือชามากเกินไปก่อนนอน คุณอาจต้องตื่นกลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำได้

หาอะไรเบาๆ รองท้อง

การเตรียมร่างกายรองรับการมีประจำเดือนต้องใช้พลังงานมาก จึงต้องรับประทานเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย และระหว่างนอนซึ่งอยู่ในภาวะอดอาหาร 7–8 ชั่วโมง ร่างกายจึงหมดพลังงานเร็วขึ้น เพื่อให้ทำงานต่อไปได้ดี ควรทานของว่างเล็กๆ ก่อนนอน เช่น โปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตเล็กน้อย อย่างชีสกับลูกพีชหรือโยเกิร์ตกับผลไม้

ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นลง

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หลับในห้องที่อุณหภูมิประมาณ 18–19 องศาเซลเซียส ในระยะลูทีนีล อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นเล็กน้อย คุณอาจสบายกว่าเมื่อห้องเย็น หากเป็นไปได้เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือใช้พัดลมหรือแอร์ก็ได้

หลีกเลี่ยงความเครียดและสิ่งรบกวนก่อนนอน

ภาวะความเครียดส่งผลต่อผู้หญิงช่วงก่อนประจำเดือนรุนแรงกว่าระยะอื่นของรอบ เดือน หากต้องการหลับง่าย ตื่นยาก และฝันดี ควรลดความเครียด อารมณ์รุนแรง หรือกิจกรรมตื่นเต้นก่อนนอน หากคุณชอบเลื่อนโทรศัพท์ เล่นโซเชียล ดูหนังมันๆ หรืออ่านข่าวก่อนนอน อาจลองเปลี่ยนเป็นกิจกรรมสงบๆ เพื่อช่วยให้หลับลึกขึ้น

ทิ้งท้าย

ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับรอบเดือนมากขึ้น ก็จะยิ่งเห็นผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของผู้หญิงในหลายด้าน ความฝันแปลกๆ เด่นชัดก่อนมีประจำเดือนก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งทั้งหมดคือสัญญาณที่บอกเล่า “เรื่องราวความพิเศษของร่างกายผู้หญิง” และประสบการณ์แสนวิเศษที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง

ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้ววันนี้:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6681280/
https://www.businessinsider.com/why-we-remember-some- dreams-but-forget- others-2017-11#:~:text=As%20we%20sleep%2C%20the%20REM,af ter%20you%20went%20to%20bed
https://www.reddit.com/r/AskWomen/comments/3qc6dm/ does_being_on_your_period_affect_your_dreams/
https://www.reddit.com/r/TwoXChromosomes/comments/ 2wrnzt/dreams_related_to_your_period_warning_mine_is/
https://www.vice.com/en/article/zmyzye/why-your-dreams-get- wild-right-before-your-period
https://www.sleepfoundation.org/bedroom-environment/best- temperature-for- sleep#:~:text=A%20National%20Sleep%20Foundation%20poll,Fa hrenheit%20(18.3%20degrees%20Celsius)
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK19956/
Advertisement


育龄女性大约每月都会经历一次月经周期。这个周期性过程与维持我们身体正常运作和支持生育能力的其他系统密切相连。月经周期对我们生活中发生的各种变化——环境、情绪或其他——都非常敏感。
焦虑是我们生活中的正常部分。当我们处于压力之下或面对新鲜和陌生的事物时,焦虑便会出现。焦虑的表现可以从轻微的不安感到严重的困扰——如呼吸困难、心跳加速、甚至焦虑发作。
多囊卵巢综合征(PCOS)是一组影响卵巢和排卵的症状,常见于生育年龄女性。患有PCOS的女性体内雄激素(男性激素)水平高于正常,这种激素失衡会干扰月经周期,导致月经稀发或延长,卵巢会出现大量卵泡(能产生激素和影响生育力的小囊泡),并且无法规律排卵,增加怀孕的难度。及时且准确的诊断有助于获得正确的治疗方案以管理症状。