ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

ความใกล้ชิดในความสัมพันธ์โรแมนติก

ความใกล้ชิดถือเป็นหนึ่งในแง่มุมที่ซับซ้อน น่าหลงใหล และให้รางวัลตอบแทนมากที่สุดของการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ เรามักพูดถึงความใกล้ชิดทางกายและอารมณ์ในความสัมพันธ์โรแมนติก แต่ผู้คนยังสามารถแบ่งปันความใกล้ชิดทางปัญญาและจิตวิญญาณได้เช่นกัน แม้แนวคิดของความใกล้ชิดจะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ก็มีปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลต่อสายสัมพันธ์ใกล้ชิดนี้

หล่อเลี้ยงสายสัมพันธ์ใกล้ชิด - เจาะลึกสายใยรักในความสัมพันธ์โรแมนติก

การสร้างความใกล้ชิดคือการหล่อหลอมสายสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้อื่นโดยอาศัยความไว้ใจและความเปราะบาง หากขาดความใส่ใจและไม่ได้มีส่วนร่วม ความใกล้ชิดย่อมไม่เกิดขึ้น หากความใกล้ชิดเป็นส่วนสำคัญและให้คุณค่าในความสัมพันธ์ แล้วเราจะพัฒนาได้อย่างไร? ทำไมความใกล้ชิดทางกายจึงไม่ได้เกิดขึ้นในทุกความสัมพันธ์โรแมนติก? เราสัมผัสความใกล้ชิดแบบเพื่อนและแบบโรแมนติกได้หรือไม่?

ความไว้ใจและความใส่ใจไม่ได้มาคู่กับแรงดึงดูดเสมอไป แต่เมื่อผู้หญิงสองคน (หรือหนึ่งคนในเพศหญิงในบทบาทพหูพจน์) ลงทุนในความสัมพันธ์ตลอดเวลา พวกเธอสามารถหล่อเลี้ยงความไว้ใจซึ่งจำเป็นต่อการสร้างความใกล้ชิดทางอารมณ์ได้ ความใกล้ชิดทางกายอาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า แต่ความใกล้ชิดทางใจให้คุณค่าที่ลึกซึ้งกว่า

ความใกล้ชิดทางกายและทางอารมณ์

เราสื่อความใกล้ชิดผ่านความอ่อนโยนและความเอื้ออาทร ความเอื้ออาทรทางกาย หมายถึงการสัมผัสหรือความใกล้ชิดทางร่างกายที่สื่อถึงมิตรภาพ ความรัก หรือแรงดึงดูดทางเพศ เช่น กอด จูบ จับมือ ลูบไล้ และนวด ไม่ว่าจะมีนัยทางเพศหรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นพฤติกรรมแสดงความเอื้ออาทรทางร่างกาย ความเอื้ออาทรทางกายยังแสดงออกด้วยการกระทำเล็กๆ เช่น เคลียร์เสื้อผ้าคู่นอนเมื่อมีฝุ่น ตั่งใจให้มือแตะกันเล็กน้อยขณะส่งของ หรือแม้แต่การนั่งใกล้ๆกัน

คู่รักที่รู้สึกสบายใจต่อกันอาจแสดงความรักด้วยรูปแบบเฉพาะตัวที่สนุกสนานยิ่งขึ้น บางครั้งอาจจะดูตลกไปเลย เช่น การหยอก การจั๊กจี้ หรือกัดเล่น (โดยไม่มีเจตนาทำให้เจ็บ)


การสัมผัสเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ และความเอื้ออาทรทางกายยิ่งเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางใจ การถูกสัมผัสช่วยลดความเครียดและกระตุ้นการหลั่งออกซิโทซิน ซึ่งส่งเสริมความไว้ใจและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง

ความเอื้ออาทรทางอารมณ์ คือความชื่นชอบและใส่ใจในความสุขของอีกฝ่าย ความรักและความเอื้ออาทรเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบตามประเภทของความสัมพันธ์

  • ความรักแบบเพื่อน คือความผูกพันที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ เป็นความรู้สึกอุ่นใจที่มีให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่ช่วยเหลือและเชื่อถือได้
  • ความรักต่อทุกสรรพสิ่ง (หรือที่รู้จักว่า agape) คือความรักที่เกิดจากความเอื้อเฟื้อและไม่มีเงื่อนไข เป็นความสุขเมื่อได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินงดงาม หรือความปรารถนาดีต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ปรากฏเมื่อเรารู้สึกพอใจในตัวเองและมีสุขภาพจิตที่ดี
  • ความรักแบบโรแมนติก เน้นการสร้างสายสัมพันธ์ทางอารมณ์และยืนยันความสำคัญของอีกฝ่าย การสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกช่วยเสริมสิ่งนี้
  • ความรักทางเพศ กับ แรงปรารถนา ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แรงปรารถนาคือความต้องการทางเพศต่ออีกคน ส่วนความรักทางเพศคือความต้องการให้อีกฝ่ายได้รับความสุขในบริบททางเพศ ซึ่งสองสิ่งนี้มักเกิดร่วมกัน

สายสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างสองคนไม่จำเป็นต้องจำกัดแค่ความรักหรือความเอื้ออาทรประเภทใดประเภทหนึ่ง จริงๆ แล้วมักเป็นการผสมผสานของหลายรูปแบบ แม้จะมีบางรูปแบบเด่นชัดกว่าก็ตาม

สายสัมพันธ์และขอบเขต

การเปิดใจเกี่ยวกับประสบการณ์ ขอบเขต และความคาดหวังของตนเองต้องอาศัยความไว้ใจโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความเอื้ออาทรทางใจมีผลต่อการแก้ปัญหาระหว่างคู่รัก คู่รักที่มีสุขภาพจิตดีมักมองหาทางออกมากกว่าการเอาชนะ

หากอยากยุติการทะเลาะกันด้วยความเคารพ การเข้าใจปฏิกิริยาและขีดจำกัดของอีกฝ่ายช่วยได้มาก และต้องเป็นไปทั้งสองฝ่าย หากคุณไม่ได้รับฟังหรือเข้าใจ ก็เท่ากับว่าขาดความเคารพซึ่งกันและกัน

ขั้นสำคัญของการสร้างสายสัมพันธ์ใกล้ชิดคือการรู้จักตนเองในความสัมพันธ์กับผู้นั้น การสนิทสนมกับใครสักคนอาจเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณได้ จึงควรตระหนักด้วยว่าส่วนใดในตัวเองที่เปลี่ยนแปลง ทุกคนที่ใช้เวลาด้วยกันย่อมรับอิทธิพลซึ่งกันและกัน แต่อย่าเสียส่วนหนึ่งของตัวเองที่คุณไม่อยากสูญเสีย การเป็นตัวของตัวเองและให้คุณค่าตนเองเป็นสิ่งสำคัญในทุกความสัมพันธ์ เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณซื่อสัตย์กับความต้องการและตั้งขอบเขตที่ดีต่อสุขภาพจิต

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร การจะรู้จักใครจริงๆ ต้องใช้เวลาร่วมกันและดูว่าเขาเป็นอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ ความไว้ใจซึ่งกันและกันเกิดจากความจริงใจและเปิดเผยเท่านั้น

การสื่อสารที่จริงใจ - โอบรับความตรงไปตรงมาเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่มีความหมาย


การสื่อสารอย่างจริงใจ

การสื่อสารต้องรับฟังคู่สนทนาไม่แพ้การพูดออกไป เมื่อพูดคุย เราสังเกตทั้งคำและภาษากาย การสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูดให้เบาะแสสำคัญถึงสิ่งที่คนคนนั้นรู้สึก น้ำเสียง ท่าทาง ท่าที และสีหน้าล้วนบ่งบอกอารมณ์


การสื่อสารที่ชัดเจนช่วยลดความสับสน แก้ปัญหา อาการน้อยใจหรือผิดหวัง และเพิ่มความพึงพอใจในความสัมพันธ์

หากความรู้สึกของอีกฝ่ายไม่มีความหมายสำหรับคุณ (หรือในทางกลับกัน) ความใกล้ชิดย่อมไม่เกิดขึ้น ความเอาใจใส่—การใส่ใจและเคารพความรู้สึกของคู่รัก—เป็นสิ่งจำเป็น และต้องเป็นไปทั้งสองฝ่าย ความไว้วางใจจะเกิดได้เมื่อทั้งสองรู้สึกปลอดภัยและเข้าใจกันเท่านั้น ความมั่นใจในความสัมพันธ์ไม่อาจดำรงอยู่ท่ามกลางความกลัว หากความสัมพันธ์มีการทำร้ายกัน สิ่งที่ดูเหมือนความไว้ใจแท้จริงแล้วคือการถูกควบคุมทางจิตใจ

ความเปราะบาง

สำหรับบางคน ความเปราะบางอาจดูเหมือนเป็นจุดอ่อน แต่แท้จริงแล้วเป็นอีกสภาวะหนึ่งของมนุษย์—เมื่อเราเปิดหน้ากากทางสังคม เราจะรู้สึกผ่อนคลายและยืดหยุ่นมากขึ้น การยอมเปลือยใจอาจทำให้รู้สึกเสี่ยงที่จะเจ็บ แต่ก็ทำให้เปิดรับและให้ความรักได้อย่างเต็มที่ หากอยากเปิดรับใครในชีวิต ต้องกล้าปลดเกราะของตัวเอง

ความไว้ใจต้องใช้เวลาค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ต้องเรียนรู้และสังเกตพฤติกรรมอีกฝ่ายจนพอวางใจได้ เมื่อรู้ว่าคู่ของเรามักคิดและทำอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ จึงคาดการณ์ได้มากขึ้นและรู้สึกว่าชีวิตควบคุมได้มากขึ้น หากเขาสม่ำเสมอและมีเจตนาดีต่อเรา เรามีเหตุผลที่จะเชื่อมั่นต่อไป สำหรับความสัมพันธ์โรแมนติก ยังมีเรื่องราวของความรักและเรื่องเพศเสริมเข้ามา (เว้นแต่ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้หญิงที่ไม่สนใจเรื่องเพศ)

การพัฒนาความใกล้ชิด

แม้จะไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับทุกคน แต่มีกลยุทธ์ที่ได้ผลนักต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่สุขภาพดี

มองเห็นคุณค่าสิ่งดีๆ ในความสัมพันธ์ของคุณ เตือนคนรักผ่านคำพูดและการกระทำ ว่าคุณรักและซาบซึ้งในตัวเขาแค่ไหน คุณให้ค่ากับเขาและความสัมพันธ์นี้ แม้เขาจะรู้อยู่แล้วก็ตาม—เราทุกคนล้วนต้องการการเตือนใจ ท่ามกลางภาระต่างๆ ของชีวิต ความเมตตาจากคนรักช่วยเติมเต็มใจได้เสมอ

เคารพ ทุกความรู้สึก ที่มีต่อกัน ความจริงแล้วเราอาจไม่ถูกใจกับบางอย่างที่ค้นพบเกี่ยวกับคนรัก แต่จำเป็นต้องยอมรับความเป็นจริงของอารมณ์เหล่านั้น การเพิกเฉยปัญหาไม่ได้ทำให้หายไป แต่การยอมรับความจริงช่วยให้เราตัดสินใจด้วยตัวเองได้ว่าอยากตอบสนองอย่างไร ความสัมพันธ์ที่มั่นคงจึงเรียกว่าความสัมพันธ์ที่ยืนยาว เพราะทนแรงกดดัน ความไม่เข้าใจกัน และอารมณ์ที่ยากลำบากได้ และเติบโตขึ้นจากสิ่งเหล่านั้น

สร้างโอกาสในการใกล้ชิด หมั่นจัดสรรเวลาอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสอง เพื่อโฟกัสที่กันและกันและความสัมพันธ์ ยิ่งทำได้ยากเพราะหน้าที่หรือภาระต่างๆ ยิ่งจำเป็นต้องหาเวลาให้ ไม่มีความจำเป็นต้องมีเซอร์ไพรส์ใหญ่โต แค่มีความสม่ำเสมอและอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ บางครั้งเพียงคำพูดหรือการยืนยันเล็กๆ ก็มีความหมายมาก

เติมอารมณ์ขันให้ชีวิตรัก แม้ในเรื่องซีเรียส เพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่นกับอารมณ์ ควรฝึกใจยอมรับ ความยอมรับจะมาได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณหัวเราะกับเรื่องหนักได้ เรียนรู้ที่จะรับข้อบกพร่องเฉพาะตัวของความสัมพันธ์ (เพราะทุกความสัมพันธ์มี) และอดทนกับความผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณอาจเห็นความงดงามในความไม่สมบูรณ์เหล่านี้ (เพราะมีความงดงามแฝงอยู่เสมอ) ตราบใดที่คุณไม่ให้มันมาบดบังทุกสิ่งในความสัมพันธ์

เปิดใจพูดคุยความรู้สึกและความต้องการในความสัมพันธ์ อย่าหนีปัญหาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอ ตรงกันข้าม! กล้ารับมือและมุ่งสู่ทิศทางที่ดี หากไม่ผลักดันตนเองไปสู่การเติบโตในแบบที่อยากเป็น คุณอาจล่องลอยไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ได้ นี่เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก แต่เวลา ความกล้า และความพยายามจะตอบแทนคุณด้วยอิสรภาพ ความหวัง และคนรักที่พร้อมเคียงข้างคุณเสมอ

คุณสามารถติดตามประจำเดือนและชีวิตรักของคุณได้ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้ตอนนี้:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดทาง Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.optionsforsexualhealth.org/facts/sex/intimacy-and-relationships/
https://www.psychologytoday.com/us/blog/fulfillment-any-age/201401/seven-types-physical-affection-in-relationships
https://www.researchgate.net/publication/247510498_Romantic_Physical_Affection_Types_and_Relationship_Satisfaction
https://mainweb-v.musc.edu/vawprevention/research/defining.shtml
https://www.healthline.com/health/emotional-needs#affection
https://www.psychologytoday.com/intl/blog/so-happy-together/201705/do-you-trust-your-partner
https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/healthyliving/relationships-creating-intimacy
พรหมจรรย์หมายถึงสภาวะที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเป็นพรหมจรรย์ด้วยการมองภายนอกเท่านั้น พรหมจรรย์เป็นเพียงแนวคิด—ไม่มีคำจำกัดความทางการแพทย์หรือชีววิทยาสำหรับพรหมจรรย์ มันเป็นสถานะที่ถูกเชื่อมโยงให้มีความหมายพิเศษซึ่งเหมือนพิธีเปลี่ยนผ่านจากอีกขั้นหนึ่งไปอีกขั้นหนึ่ง สถานะที่ไม่มีกฎหมายกำหนดอย่างเป็นทางการแต่ยึดถือกันในสังคม
น่าเสียดายที่โลกของการนัดเดทไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยโดยแท้จริง การระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าสถานการณ์อันตรายจะดูไม่น่าเกิดขึ้นก็ตาม นี่คือสิ่งที่ควรจำไว้เสมอ
ช่องว่างแห่งความสุขทางเพศเป็นปัญหาที่มีผลกระทบกับคู่รักชายหญิงจำนวนมาก เมื่อฝ่ายหนึ่งถึงจุดสุดยอดน้อยกว่าระหว่างร่วมเพศ ช่องว่างก็จะยิ่งขยาย เพื่อปิดช่องว่างแห่งความสุขระหว่างชายกับหญิง เราควรทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับเซ็กส์แบบชายหญิงใหม่