ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นเชื้อโรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ วิธีหลักในการป้องกันโรคเหล่านี้คือการใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์และรักษาสุขอนามัยที่ดี

ผู้พิทักษ์สุขภาพ: เสริมสร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือที่รู้จักในชื่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) หรือกามโรค มีเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตมากกว่า 30 ชนิดที่สามารถแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย เช่น ซิฟิลิส หนองในเทียม หนองในแท้ เอชไอวี/เอดส์ พยาธิช่องคลอด ตับอักเสบบี เอชพีวี และเริมอวัยวะเพศ

เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แพร่โดยการแลกเปลี่ยนของเหลวในร่างกายที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่มักเกิดขณะมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก การติดเชื้อยังอาจเกิดจากการใช้สิ่งของร่วมกันที่สัมผัสของเหลวในร่างกาย เช่น เข็มโกน ผ้าเช็ดตัว การกินอาหารปนเปื้อน (ล้างมือก่อนกินทุกครั้งนะคะ) หรือการจูบกับผู้มีแผลร้อนในในปาก หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อยังสามารถถ่ายทอดโรคสู่ลูกในระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดได้

แม้ว่าการงดมีเพศสัมพันธ์จะเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุด แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่พร้อมจะละเว้นจากเพศสัมพันธ์ทั้งหมด โชคดีที่ยังมีวิธีป้องกันอื่นอีกหลายวิธี มาดูว่าควรทำอะไรบ้าง:

  • ใช้ถุงยางอนามัยชายหรือหญิงให้ถูกต้องทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
  • หาความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และอาการของโรค
  • เปิดใจพูดคุยกับคู่นอน การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับอาการผิดปกติได้ทันท่วงที อย่าลืมว่าบางคนอาจติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ จึงอาจไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง รวมถึงหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับคู่ใหม่ หรือกับผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยกันมาก่อน
  • รักษาความสะอาด ล้างร่างกายก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผ้าเช็ดตัว กางเกงใน หรือมีดโกนร่วมกับผู้อื่น
  • เข้ารับวัคซีนป้องกันตับอักเสบบีและเอชพีวี

หากผู้หญิงปฏิบัติดังกล่าวทั้งหมดนี้ โอกาสติดเชื้อจะลดน้อยมาก แต่ความจริงที่น่าเศร้าคือ หลายคนเลือกที่จะไม่คิดถึงความเสี่ยงเหล่านี้ ไม่ยอมรับความจริงเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภัยเหล่านี้ถือเป็นความรับผิดชอบทางสังคม และเราทุกคนควรพยายามทำให้ตัวเองและผู้รอบข้างปลอดภัย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รักษาได้

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นอย่าละเลยการเข้ารับการตรวจ ปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักจากความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

ซิฟิลิส เป็นโรคแบคทีเรียที่รักษาได้ง่ายมากหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก หากปล่อยไว้อาจทำให้ตาบอด ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ สมองเสื่อม พิการ และเสียชีวิต

อาการของซิฟิลิส ได้แก่:

  • ตุ่มเล็ก ๆ ที่ไม่เจ็บรอบอวัยวะเพศหรือปาก
  • ติ่งเนื้อเล็ก ๆ ในอวัยวะเพศ
  • ผื่นที่ฝ่ามือหรือฝ่าเท้า
  • ต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณคอ ขาหนีบ หรือรักแร้
  • มีคราบขาวในปาก
  • ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ปวดข้อ เป็นไข้

การป้องกันที่สำคัญ: วิธีการใช้ถุงยางอนามัยชายหรือหญิงที่ถูกต้องเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

หนองในเทียม เป็นโรคแบคทีเรียที่รักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะ หากปล่อยไว้ในผู้หญิงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบและมีบุตรยาก หนองในเทียมยังสามารถทำให้เกิดอักเสบของลูกอัณฑะ ข้ออักเสบจากภูมิต้านตนเอง และตาบอด

อาการของหนองในเทียม ได้แก่:

  • แสบหรือปวดขณะปัสสาวะ
  • ตกขาวผิดปกติหรือน้ำจากอวัยวะเพศชายไหลออกมาผิดปกติ
  • เจ็บหรือบวมที่ลูกอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
  • ปวดท้องน้อย
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • เป็นไข้

หนองในแท้ หรือโรคเดอะแคลป เป็นโรคแบคทีเรียที่ผู้หญิงหลายคนไม่แสดงอาการ หากปล่อยไว้จะเสี่ยงเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ เยื่อหุ้มตับอักเสบ ข้ออักเสบติดเชื้อ แท้งติดเชื้อ ตาบอด และมีบุตรยาก เชื้อบางสายพันธุ์เริ่มดื้อยาปฏิชีวนะ จึงควรรักษาอย่างเร่งด่วน

อาการของหนองในแท้ ได้แก่:

  • แสบหรือปวดขณะปัสสาวะ
  • ตกขาวผิดปกติหรือน้ำจากอวัยวะเพศชายไหลออกมาผิดปกติ
  • เลือดออกทางช่องคลอดระหว่างรอบเดือน
  • ปวดท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

พยาธิช่องคลอด (Trichomoniasis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบมากที่สุดในกลุ่มที่รักษาได้ มักไม่แสดงอาการ พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดและถ่ายทอดเอชไอวี รวมถึงภาวะแทรกซ้อนในหญิงตั้งครรภ์

อาการของพยาธิช่องคลอด ได้แก่:

  • แสบหรือปวดขณะปัสสาวะ
  • คันบริเวณอวัยวะเพศ
  • ตกขาวสีเหลืองหรือเขียวมีกลิ่นเหม็น
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

หิด เป็นโรคผิวหนังติดต่อเกิดจากไร Sarcoptes scabiei ที่เจาะผิวหนังเข้าไปสร้างรังและวางไข่ อาการเกิดจากการแพ้ไร

อาการของหิด ได้แก่:

  • คันมาก
  • ผื่นคล้ายสิว
  • มีรอยทางเล็ก ๆ บนผิวหนัง

เหาโลนหรือเหาปู เป็นแมลงขนาดเล็กที่พบในขนบริเวณอวัยวะเพศ แต่ก็สามารถพบในบริเวณที่มีขนหนาอื่น ๆ ด้วย เหาโลนกินเลือดเท่านั้น

อาการของเหาโลน ได้แก่:

  • คัน
  • ผิวแดง
  • อักเสบ

เอชพีวีส่วนใหญ่ มีเอชพีวีมากกว่า 170 สายพันธุ์ เอชพีวี 6 และ 11 เป็นสาเหตุการติดเชื้อเกือบ 90% อาจไม่แสดงอาการและสามารถหายเองได้ (แต่ควรพบแพทย์ตรวจ)

อาการของเอชพีวี ได้แก่:

  • มีหูดหรือตุ่มในบริเวณอวัยวะเพศ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รักษาไม่หาย

เอชไอวี/เอดส์ ไวรัสเอชไอวีเป็นสาเหตุของกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) ซึ่งเป็นการสูญเสียประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถควบคุมและรักษาให้ชะลอได้ แต่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด

การติดเชื้อเอชไอวีแบ่งเป็น 3 ระยะหลัก:

  • ระยะเฉียบพลัน ส่วนใหญ่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ เหงื่อออก ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่น น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า บางคนมีอาการท้องเสียหรืออาเจียน
  • ระยะสงบ (ระยะแฝง) ระยะนี้เฉลี่ย 8 ปี มักไม่แสดงอาการ นักสุดท้ายน้ำหนักลด ปวดกล้ามเนื้อ มีไข้ บางรายมีต่อมน้ำเหลืองโตชั่วคราว (นอกเหนือจากขาหนีบ)
  • เอดส์ ภูมิคุ้มกันแทบไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสที่ร่างกายปกติจะป้องกันได้และอาจถึงแก่ชีวิต

ไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง เป็นไวรัสที่ทำให้ตับอักเสบ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับและตับแข็ง ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 5 เสียชีวิตจากภาวะนี้ บางรายอาจไม่แสดงอาการ

อาการของไวรัสตับอักเสบบี ได้แก่:

  • ผิวเหลือง
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • ปวดท้องน้อย
  • เหนื่อยล้า

ไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง เป็นไวรัสที่ติดตับ หากปล่อยไว้มักนำไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับ ส่วนใหญ่ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการ

เอชพีวีบางสายพันธุ์ เป็นสายพันธุ์ที่เสี่ยงสูงต่อการก่อมะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก องคชาต ปากหรือคอซึ่งมักไม่มีอาการ

กังวลว่าติดโรค…ควรทำอย่างไร?

หากผู้หญิงรู้สึกกังวลว่าตัวเองอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรตรวจให้แน่ชัดโดยไปพบแพทย์หรือคลินิกสุขภาพทางเพศในพื้นที่ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทางออนไลน์ หากผลออกมาเป็นบวกจะได้รับคำแนะนำเรื่องการรักษา ระหว่างนี้ควรงดกิจกรรมเสี่ยงทุกชนิด โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

บางคนอาจรู้สึกอาย ไม่กล้าเปิดเผยว่ามีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่อย่าทำให้ต้องเสียสุขภาพเพราะปิดบัง โรคเป็นสัจธรรมของชีวิต หากเป็นแล้วควรดำเนินการดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

ผู้หญิงสามารถติดตามกิจกรรมทางเพศของตนเองได้ด้วย WomanLog ดาวน์โหลด WomanLog ได้ที่นี่:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.besafemeds.com/blog/which-stds-can-be-cured/
https://www.medicalnewstoday.com/articles/17131.php
https://www.nhs.uk/common-health-questions/sexual-health/what-should-i-do-if-i-think-i-have-got-an-sti/
พรหมจรรย์หมายถึงสภาวะที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเป็นพรหมจรรย์ด้วยการมองภายนอกเท่านั้น พรหมจรรย์เป็นเพียงแนวคิด—ไม่มีคำจำกัดความทางการแพทย์หรือชีววิทยาสำหรับพรหมจรรย์ มันเป็นสถานะที่ถูกเชื่อมโยงให้มีความหมายพิเศษซึ่งเหมือนพิธีเปลี่ยนผ่านจากอีกขั้นหนึ่งไปอีกขั้นหนึ่ง สถานะที่ไม่มีกฎหมายกำหนดอย่างเป็นทางการแต่ยึดถือกันในสังคม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนกรณีที่มีการเผยแพร่เนื้อหาลามกโดยไม่ได้รับความยินยอมบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เมื่อผู้คนจำนวนมากหันมาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำงาน จัดการชีวิตสังคม และค้นหาความรัก ความเสี่ยงจากอาชญากรรมไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้น การแก้แค้นด้วยสื่ออนาจารถือเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ที่มักเกิดขึ้นบนโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือแพลตฟอร์มลักษณะคล้ายกัน
คำว่า 'เซ็กซ์ติ้ง' เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า 'sex' และ 'texting' โดยเซ็กซ์ติ้งหมายถึงการส่งเนื้อหาลามกทางเพศให้กับผู้อื่นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์