New! Sign in to manage your account, view your records, download reports (PDF/CSV), and view your backups. Sign in here!
Share this article:

ทำไมบางคนถึงซุ่มซ่ามกว่าคนอื่น?

เราทุกคนต่างก็มีความซุ่มซ่ามกันเป็นพักๆ ไม่ว่าจะเดินสะดุดขอบฟุตบาท หรือทำน้ำหกใส่ชุดเดรสใหม่ แต่บางครั้งความซุ่มซ่ามก็ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุชั่วคราว แต่เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำ คุณอาจสังเกตว่าตัวเองซุ่มซ่ามขึ้นในบางช่วงของเดือน หรือล้ม กระแทกของ หรือทำของหล่นตอนเครียด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับความซุ่มซ่าม ว่าควรกังวลหรือเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตและบุคลิกเฉพาะตัว

สำรวจสาเหตุของความแตกต่างด้านการประสานงานและสมดุลร่างกาย

เราทุกคนคงมีเพื่อนคนหนึ่ง—หรือบางทีเราเองก็เป็นคนนั้น—ที่ชอบทำของตก เดินชนเฟอร์นิเจอร์ และเผลอทำของหล่นอยู่เรื่อยๆ ส่วนมากก็มักหัวเราะกันแล้วก็ปล่อยผ่าน: ‘บางคนก็ซุ่มซ่ามกว่าคนอื่นใช่ไหม?’ แต่ความซุ่มซ่ามไม่ได้เป็นแค่บุคลิกเสมอไป เพราะความซุ่มซ่ามมีความหมายได้หลากหลาย

ความซุ่มซ่ามคืออะไร?

ส่วนใหญ่เราเคยทำของตก เดินชนโต๊ะ หรือเสียการทรงตัวโดยที่ไม่ได้ระวัง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่น่ากังวล ส่วนใหญ่มาจากการประสานงานร่างกายไม่ดี เคลื่อนไหวเร็วเกินไป หรืออาจจะดื่มมากไปบ้าง นี่เกิดขึ้นกับทุกคนเป็นครั้งคราว แต่บางคนก็รู้สึกว่าตัวเองซุ่มซ่ามกว่าคนอื่น ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนซุ่มซ่ามโดยเนื้อแท้ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่กระทบการประสานการเคลื่อนไหวของเราเป็นระยะ

ความซุ่มซ่ามเป็นเรื่องร้ายแรงไหม?

ถ้าความซุ่มซ่ามเกิดแค่ลำพัง มันไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรง แต่เป็นเพียงอาการหนึ่งเท่านั้น สิ่งนี้จะน่ากังวล ก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นเฉียบพลัน รุนแรง หรือเป็นระยะเวลานานๆ หากคุณไม่เคยเป็นคนซุ่มซ่าม แต่จู่ๆ ก็กลับทำของตก น้ำหก แล้วสะดุดล้มโดยไม่มีเหตุผลชัด ควรระวัง โดยเฉพาะถ้าร่วมกับอาการต่อไปนี้:

  • เวียนศีรษะ
  • คลื่นไส้หรืออาเจียน
  • ปวดศีรษะ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ได้กลิ่นแปลกๆ รุนแรงและสุ่ม
  • ชักเกร็ง

หากความซุ่มซ่ามเกิดพร้อมกับอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของโรคสำคัญ ดังนี้:

  • ชักเกร็งจากโรคลมชัก
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • มะเร็งบางชนิด
  • โรคพาร์กินสัน
  • สมองได้รับบาดเจ็บหรือมีเนื้องอก
  • โรคอัลไซเมอร์

แต่ในความเป็นจริงแล้ว สาเหตุของความซุ่มซ่ามชั่วครั้งชั่วคราวมักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน หรือสุขภาพจิตใจที่มีปัญหาในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง อ่านต่อเพื่อเรียนรู้สาเหตุหลักทั้งสี่ข้อของความซุ่มซ่ามได้เลย

4 เหตุผลหลักที่ทำให้ซุ่มซ่ามบ่อย

ซุ่มซ่ามกับสมาธิสั้น (ADHD)

ภาวะสมาธิสั้น หรือ ADHD เป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่พบบ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มักรู้ตัวว่าตนเองมีภาวะนี้หลังตรวจพบในลูก ผู้ที่มีสมาธิสั้นมักจะมีปัญหาในการจดจ่อหรือมีสมาธินานๆ จนอาจชดเชยด้วยพฤติกรรมควบคุมหรือหุนหันพลันแล่น ซึ่งจะกระทบกับการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน

หนึ่งในอาการของ ADHD ที่พบได้คือ การแกว่งของท่าทางร่างกาย (postural sway) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาชีวภาพต่อการเคลื่อนไหว ร่างกายของเราพยายามหาจุดสมดุลขณะเดิน วิ่ง ปีน และเวลาทรงตัวกับขาข้างเดียว เช่น ท่าโยคะยืนขาเดียว คุณจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อปรับสมดุลซึ่งอาจจะโยกเล็กน้อย

สำหรับผู้มีสมาธิสั้น อาจมีปัญหาในการควบคุมกล้ามเนื้อมากกว่าคนทั่วไป จึงยิ่งควบคุมสมดุลตัวเองได้ยากขึ้น อาจเผลอโยกข้างใดข้างหนึ่งหรือขยับตัวเพื่อดึงร่างกายให้ตรงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลต่อการประสานงานจนทำให้ซุ่มซ่ามมากขึ้น เช่น เดินชน หรือทำนู่นนี่หล่นมือบ่อยๆ

รักษา postural sway ในผู้มี ADHD ทำอย่างไร?

ถ้าคุณซุ่มซ่ามเป็นครั้งคราว โดยไม่ได้กระทบต่อชีวิตประจำวัน การแกว่งท่าทางไม่น่าใช่ปัญหาหลัก แต่ก็มีหลายคน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุจาก ความซุ่มซ่าม

ถ้าความซุ่มซ่ามเป็นเรื่องปกติในแต่ละวัน แพทย์อาจแนะนำให้ฝึกกายภาพบำบัดเสริมสมดุล ร่างกายของเราสามารถฝึกและพัฒนาสมดุลได้เหมือนทักษะอื่นๆ มีงานวิจัยยืนยันว่าการฝึกสมดุลช่วยให้เด็กที่มีสมาธิสั้นมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในเรื่องการประสานกล้ามเนื้อ และช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย

เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างความซุ่มซ่ามกับความวิตกกังวล


ความซุ่มซ่ามกับความวิตกกังวล

ความไม่สบายใจหรือกังวลมักทำให้รู้สึกแย่ แค่คิดถึงก็ทำให้ประหม่าได้ ความซุ่มซ่ามช่วงที่เราเครียดเป็นเรื่องปกติมาก เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • มือสั่น จึงจับสิ่งของแน่นไม่ได้
  • มือเหงื่อออก ทำของลื่นและตกง่ายขึ้น
  • คิดมากเกินไป ระบบประสาทกล้ามเนื้อในร่างกายฉลาดมาก สมองจะประมวลสิ่งรอบตัวอย่างรวดเร็วให้เราเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นจนเป็นอัตโนมัติ แต่ความวิตกกังวลจะเปลี่ยนสิ่งนั้น งานง่ายๆ กลายเป็นเรื่องยากเมื่อมัวแต่คิด วิเคราะห์ทุกก้าว ส่งผลให้สะดุดหรือเดินชนได้ง่ายขึ้น
  • เมื่อประหม่า สมาธิก็ลดลง สิ่งแวดล้อมเล็กๆ น้อยๆ ก็ดึงความสนใจได้ง่าย สุดท้ายทำของตกน้ำหก

ทำอย่างไรไม่ให้ซุ่มซ่ามตอนเครียด?

ความซุ่มซ่ามเป็นส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาต่อความวิตกกังวล ทางออกคือการทำให้ตัวเองผ่อนคลายมากขึ้น

วิธีแนะนำ:

  • ฝึกหายใจ เพื่อควบคุมระดับออกซิเจนและลดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • โฟกัสกับประสาทสัมผัส เพื่อพาตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน
  • เตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อลดความกลัวสิ่งที่ไม่รู้ หากเรารู้ว่าจะไปไหน ใครอยู่ที่นั่น แล้วเหตุการณ์จะดำเนินแบบไหน ง่ายขึ้นที่จะผ่อนคลายและสนุกกับประสบการณ์
  • ทำอะไรช้าๆ ให้ตัวเองได้หยุดพัก หากรู้ว่าฟุ้งซ่านหรือขยับตัวบ่อย ลองสูดหายใจลึกๆ แล้วค่อยๆ ทำทีละอย่าง

สามารถอ่านวิธีจัดการความเครียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ รับมือกับความวิตกกังวล

ซุ่มซ่ามช่วงมีประจำเดือน

เมื่อใกล้มีรอบเดือน ทำไมรู้สึกขี้ลืม ซุ่มซ่าม เดินชนโน่นนี่ หรือหยิบจับอะไรก็ทำหล่น? อย่าเพิ่งตกใจ คุณไม่ได้เป็นคนเดียว หลายคนประสบกับภาวะนี้ระหว่างรอบเดือน

มีคำอธิบายที่เป็นไปได้หลายข้อ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนก่อนมีประจำเดือนส่งผลถึงสมองในส่วนที่ควบคุมการคิด ความจำ และสมดุล นอกจากนั้นร่างกายมักกักเก็บน้ำไว้มากขึ้นแล้วน้ำหนักตัวส่วนกลางจะเปลี่ยน ทำให้จุดศูนย์ถ่วงเปลี่ยนตาม ส่งผลให้สมดุลตัวเองยากขึ้น

หลายคนยังรู้สึกนอนหลับไม่ดีในช่วงนี้ (ดูเพิ่มเติม เทคนิคแก้เหนื่อยล้าและนอนไม่หลับช่วงรอบเดือน) ส่งผลให้เพลีย ขาดสมาธิ และคุมกล้ามเนื้อแย่ลง ดร.อไลซ่า ดเวค ยังรายงานว่าผู้หญิงบางราย ตาขยายเล็กน้อยระหว่างมีประจำเดือน ทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ยากขึ้นและรู้สึกซุ่มซ่ามหนักขึ้นกว่าเดิม

Advertisement


ลดซุ่มซ่ามช่วงมีประจำเดือน ทำอย่างไร?

แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนธรรมชาติของรอบเดือน แต่คุณช่วยตัวเองได้โดย:

  • นอนพักให้เพียงพอ ถ้าเหนื่อย ระบบร่างกายทั้งกาย ใจ อารมณ์ก็ไม่ทำงานเต็มที่
  • จำกัดอาหารเค็มและหวาน ซึ่งจะยิ่งทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น
  • งดเล่นโทรศัพท์ เหลียวมองรอบตัว มองเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า แทนที่จะจ้องจอ ลดเวลาดูหน้าจอช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น และถือเป็นโอกาสดีในการพักโซเชียลมีเดีย

ความซุ่มซ่ามกับวัยหมดประจำเดือน

ใครว่าเมื่อชีวิตผ่านช่วงฮอร์โมนผันผวนมากมายแล้วจะได้พัก? กลับต้องเจออีกด่านคือ วัยหมดประจำเดือน ซึ่งความซุ่มซ่ามก็มาเยือนพร้อมเหล่าเพื่อนอาการต่างๆ

เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดฮวบในวัยหมดประจำเดือน สมองส่วนที่ควบคุมการคิด ความจำ การแก้ปัญหา และการประสานงาน การเคลื่อนไหวจึงถดถอยลง ซ้ำร้าย ผู้หญิงหลายคนยังนอนไม่หลับ รู้สึกเพลียสมองตื้อ

ทักษะการเคลื่อนไหวก็มักแย่ลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แล้วร่างกายจะช้ำง่ายกว่าเดิมเพราะเนื้อเยื่อไขมันลดลงและสร้างคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผิวบางและเป็นรอยง่าย แค่เดินชนโต๊ะก็อาจเป็นแผลช้ำแล้ว

จัดการความซุ่มซ่ามระหว่างเข้าสู่วัยทอง

แม้ไม่มีทางย้อนวัยได้ แต่เราสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วยการรักษาความกระฉับกระเฉงทั้งทางกายและใจ แม้อาจไม่ได้มีแรงไปงานสังสรรค์บ่อยเหมือนวัยสาว แต่การเข้าร่วมชมรม พบปะเพื่อน หรือใช้เวลากับคนใกล้ตัวก็ยังช่วยให้ชีวิตสดชื่น เชื่อมโยงกับผู้อื่น และท้าทายตัวเองกับโลกใหม่ๆ ได้เสมอ ช่วงนี้ควรใช้ประสบการณ์ในชีวิตจัดสรรแต่ละวันให้ดีที่สุด

ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยได้รับการบรรเทาอาการด้วยฮอร์โมนทดแทน (HRT) แม้บางประเทศยังเป็นประเด็นที่ถกเถียง แต่ข้อมูลใหม่ๆ ชี้ชัดว่าฮอร์โมนช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้อย่างปลอดภัย มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน หรือแม้แต่เทสโทสเตอโรน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณเอง

ศึกษาข้อดีข้อเสียของฮอร์โมนเสริมได้เพิ่มเติมใน บทความนี้

ทำอย่างไรให้ซุ่มซ่ามน้อยลง?

หากคุณซุ่มซ่ามเป็นครั้งคราว อย่าตัดสินตัวเองแรงไป มีโอกาสสูงว่าคุณแค่ต้องพักผ่อนมากขึ้น หรือควรลดความเร็วลงตอนทำอะไร เมื่อเร่งรีบหรือเครียด เรามักประสานงานร่างกายได้ไม่ดีนัก ถ้ารู้ตัวว่าทำของหล่น เดินชนของตลอดทั้งวัน—หยุด หายใจเข้าลึกๆ สังเกตตัวเอง แล้วถามตัวเองว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่ต้องรีบขนาดนั้นไหม? เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป

แต่ถ้าความซุ่มซ่ามเกิดขึ้นเฉียบพลัน รุนแรง ต่อเนื่องนาน หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจว่าสุขภาพร่างกายไม่เป็นอะไร

สรุป

คงไม่มีใครอยากเป็นคนที่ใครๆ มองว่า „ซุ่มซ่าม” และบางครั้งความซุ่มซ่ามก็ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่น่ารำคาญหรืออาจอันตรายด้วย หากคุณอยากรู้เรื่องสุขภาพสตรีเพิ่มเติม เชิญอ่านบทความต่อไปนี้:

ทำไมต้องอ่อนไหวง่ายช่วงมีรอบเดือน?

ผมร่วงหนักหรือเปล่า? วิธีรับมือและฟื้นฟูตนเอง.

เรียนรู้วิธีคำนวณรอบเดือนของคุณ

ดาวน์โหลด WomanLog ได้เลย:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

ดาวน์โหลดบน AppGallery

Share this article:
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4474325/
https://brieflands.com/articles/ijp-95542.html
https://www.health.com/condition/sexual-health/5-weird-things-that-happen-to-your-body-during-your-period
https://www.calmclinic.com/anxiety/symptoms/extreme-clumsiness
https://psychcentral.com/adhd/postural-sway-adhd
https://www.healthline.com/health/clumsiness
Advertisement


ถึงแม้จะดูน่าตกใจ แต่อาการแบบนี้ในความเป็นจริงแล้วเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคิด คุณเคยรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตหรือรู้สึกจี้ดๆ ชั่วขณะขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุไหม? ความรู้สึกแบบนี้พบได้บ่อยขึ้นในช่วงก่อนหมดประจำเดือน เมื่อระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อลักษณะการทำงานของเส้นประสาทของเรา แต่อาการนี้ก็ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีกหลากหลายด้วย
เขาว่ากันว่าเราคือสิ่งที่เรากิน ความคิดนี้มีประโยชน์ หากเราได้ตระหนักจริงๆ ว่าเราทานอะไรเข้าไป (ซึ่งบ่อยครั้งเราไม่รู้) หลายคนรู้สึกถูกดึงดูดใจที่จะพึ่งแต่แหล่งข้อมูลภายนอกในการหา 'วัตถุดิบวิเศษ' ที่เหมือนจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างของชีวิตได้
เสียงดังในหู (Tinnitus) คือแขกที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเข้ามารบกวนวันของคุณด้วยเสียงดังต่อเนื่องแบบสูงแหลมในหู ไม่ใช่แค่ความรำคาญเท่านั้น เสียงหลอกเหล่านี้ยังอาจทำให้คุณสมาธิหลุด นอนไม่หลับ และลดคุณภาพชีวิตโดยรวมอีกด้วย