ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

ปรับเปลี่ยนกิจวัตรดูแลผิวตามรอบเดือน

คุณสังเกตเห็นว่าผิวมีสิวมากขึ้นก่อนประจำเดือนจะมาไม่กี่วันไหม หรือผิวดูหมองคล้ำและแห้งในช่วงแรกของรอบเดือน นั่นเป็นเพราะรอบเดือนส่งผลต่อสุขภาพและความเปล่งปลั่งของผิวของคุณ บทความนี้จะอธิบายว่าขั้นตอนต่าง ๆ ของรอบเดือนมีผลกับผิวอย่างไร และมีเคล็ดลับในการปรับกิจวัตรดูแลผิวให้เหมาะกับแต่ละช่วงเพื่อผิวที่สวยสุขภาพดีตลอดเดือน

ภาพประกอบกิจวัตรดูแลผิวปรับตามแต่ละช่วงของรอบเดือน

การดูแลผิวอย่างดีมีความสำคัญมาก การเลือกกิจวัตรดูแลผิวที่เหมาะสมสามารถช่วยเรื่องสิว ชะลอวัยก่อนวัยอันควร ลดความเสียหายของผิว และปัญหาผิวอื่น ๆ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีสุด ๆ ใส่ใจดูแลผิวทุกวัน แต่ปัญหาผิวก็ยังมากวนใจ อาจเป็นเพราะรอบเดือนของคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง

คุณอาจสังเกตได้ว่าช่วงปลายรอบเดือนก่อนมีประจำเดือน ผิวของคุณอาจดูหมองคล้ำ มัน หรือมีสิวขึ้นมาก แต่แล้วแต่ละช่วงของรอบเดือนมีผลกับผิวแตกต่างกันอย่างไร เราได้วิเคราะห์เทรนด์ใหม่ที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังพูดถึงกันทั้งในวงการสุขภาพและโซเชียลมีเดีย นั่นคือการดูแลผิวตามรอบเดือนหรือ Skincare Syncing

Skincare Syncing คืออะไร

คุณน่าจะเคยได้ยินการปรับการออกกำลังกาย งาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับรอบเดือน การดูแลผิวตามรอบเดือนก็กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน ทั้งนักรีวิวและแพทย์ผิวหนังต่างให้ความสนใจ

แนวคิดของ Skincare Syncing คือ ในแต่ละช่วงฮอร์โมนของรอบเดือน ผิวของคุณจะเปลี่ยนแปลงไป คุณจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้ตรงกับช่วงรอบเดือน เพื่อให้ได้ผลสูงสุดและจัดการปัญหาผิวแต่ละช่วงได้ตรงจุด

เมื่อปรับเปลี่ยนกิจวัตรดูแลผิวตามรอบเดือน คุณจะสามารถลดสิวก่อนเป็นประจำเดือน และยังรักษาผิวให้เนียนนุ่ม เปล่งประกายสุขภาพดีตลอดทั้งเดือน

แต่ละช่วงของรอบเดือนและผลกระทบต่อสุขภาพผิว

ระยะมีประจำเดือน

ระยะเริ่มต้นของรอบเดือนนับจากวันที่ประจำเดือนมา โดยทั่วไปจะกินเวลาประมาณ 3-7 วัน ในช่วงนี้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และเทสโทสเตอโรนต่ำสุด เช่นเดียวกับอารมณ์และพลังงาน ผิวของคุณอาจดูหมองคล้ำ แห้ง ลอก หรือไวต่อผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรงอย่างเรตินอลและกรดผลัดเซลล์ผิว

สิ่งนี้เกิดจากระดับเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนที่ต่ำ ซึ่งตามปกติสองฮอร์โมนนี้ช่วยขยายหลอดเลือดและให้ผิวดูสว่างสุขภาพดี อีกทั้งเอสโตรเจนยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยกระตุ้นการผลิตน้ำมัน

ระยะฟอลลิคูลาร์

ระยะนี้รวมระยะมีประจำเดือนด้วย โดยปกติจะนาน 10-14 วัน ผลต่อผิวจะเห็นหลังประจำเดือนหมด รังไข่จะเริ่มสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนมากขึ้น

ช่วงนี้ผิวจะดูใสขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น เพราะเอสโตรเจนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณใบหน้า

งานวิจัยเกี่ยวกับความสวยของใบหน้าผู้หญิงพบว่าความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าในแต่ละช่วงรอบเดือนมีผลต่อความน่าดึงดูด ในช่วงฟอลลิคูลาร์ใกล้ไข่ตกใบหน้าจะดูอ่อนโยนและน่ามองกว่าปลายรอบเดือน

แต่บางคนอาจสังเกตว่าผิวมันขึ้นในช่วงปลายฟอลลิคูลาร์ มักเป็นผลมาจากเทสโทสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น

ระยะไข่ตก

ระยะไข่ตกเป็นช่วงที่สั้นที่สุดของรอบเดือน แต่มีผลชัดเจนกับผิว มากที่สุด ผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้สึกสดใส กระปรี้กระเปร่า มีแรงใจและเข้าสังคมเก่งขึ้น

ช่วงนี้เอสโตรเจนจะสูงสุด อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและแก้มอมชมพู เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว

แต่ในขณะเดียวกัน ระดับเทสโทสเตอโรนและลูทิไนซิ่งฮอร์โมนจะสูงขึ้น ส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันมากกว่าเดิม อาจมีสิวหรือรูขุมขนกว้าง

ระยะลูทีล

เป็นช่วงสุดท้ายก่อนเริ่มรอบใหม่ เริ่มหลังไข่ตก ระดับเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนจะลดลง ขณะเดียวกันมดลูกจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพื่อเตรียมพร้อมต่อการตั้งครรภ์ โปรเจสเตอโรนกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น

โปรเจสเตอโรนยังทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นและอาจกักเก็บน้ำมันหรือสิ่งสกปรกมากขึ้น ระยะนี้อาจเกิดการคั่งน้ำใต้ผิว ให้ผิวดูบวมน้ำและมันง่ายขึ้น

ในขณะเดียวกัน กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง ทำให้มีเซลล์ผิวเก่าสะสม เมื่อรวมกับน้ำมันส่วนเกินอาจอุดตันรูขุมขนและเกิดสิวได้มากขึ้น

แต่อย่าเพิ่งกังวล เพราะการปรับกิจวัตรดูแลผิวตามรอบเดือน (Skincare Syncing) สามารถช่วยจัดการปัญหาเฉพาะช่วงและเติมเต็มผิวสวยได้ตลอดเดือน ถ้าคุณปรับใช้ให้เหมาะสม

Advertisement


การเลือกสกินแคร์ให้ตรงกับรอบเดือน

กิจวัตรดูแลผิวสำหรับช่วงมีประจำเดือน (วัน 1-5)

ช่วงนี้ผิวมักจะแห้งและไว เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนต่ำ ควรเน้นเติมน้ำให้ผิวและผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน

กิจวัตร:

  • ล้างหน้าอย่างอ่อนโยนในตอนเย็น ไม่ต้องล้างตอนเช้าก็ได้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
  • เติมความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีไฮยาลูรอนิก แอซิด แพนทีนอล หรือเซราไมด์ ใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน
  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เลือกกรดชนิดอ่อน เช่น กรดแลคติกหรือกรดมาลิก สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • บำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นทั้งเช้าและเย็น เพื่อปกป้องผิว
  • ให้รางวัลตัวเองด้วยมาสก์หน้าเติมน้ำและบำรุงในช่วงนี้

กิจวัตรดูแลผิวสำหรับช่วงฟอลลิคูลาร์ (วัน 6-14)

เอสโตรเจนเริ่มสูง ผิวยืดหยุ่น ชุ่มชื้นขึ้น เหมาะกับการบำรุงเพื่อผิวกระจ่างใส สร้างคอลลาเจน และลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

กิจวัตร:

  • ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรน้ำตอนเย็น ไม่ต้องล้างตอนเช้า
  • ใช้เซรั่มวิตามินซี และไนอะซินาไมด์เพื่อผิวกระจ่างใสในตอนเช้า
  • เติมไฮยาลูรอนิคแอซิดในกิจวัตรเช้า-เย็น เพื่อผิวฉ่ำสุขภาพดี
  • จบกิจวัตรเช้าด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาและครีมกันแดด

กิจวัตรดูแลผิวสำหรับช่วงไข่ตก (ประมาณวัน 12-14)

เมื่อเอสโตรเจนสูงสุด ผิวดูดีที่สุด แต่อาจมันและเกิดสิวได้ง่าย ให้เน้นปกป้องและรักษาผิวเปล่งปลั่ง

กิจวัตร:

  • Double Cleanse ด้วยคลีนเซอร์สูตรน้ำมัน ตามด้วยคลีนเซอร์สูตรน้ำ เพื่อล้างคราบเครื่องสำอางและน้ำมันออกหมดจด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี สังกะสี หรือเปปไทด์ทองแดง
  • เริ่มใช้เรตินอลในกิจวัตร ช่วยผลัดเซลล์ผิวและควบคุมความมัน
  • ใช้กรดไกลโคลิกเป็นครั้งคราวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาต่อเนื่อง

กิจวัตรดูแลผิวช่วงลูทีล (วัน 15-28)

โปรเจสเตอโรนสูง น้ำมันในผิวมาก สิวอาจขึ้นได้ง่าย โฟกัสควบคุมความมันและป้องกันสิว ช่วงนี้มักดูแลผิวยากอย่าเพิ่งท้อถ้ายังมีสิวขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติ

กิจวัตร:

  • Double Cleanse ตอนเย็น ถ้าผิวเป็นสิวง่าย ให้เปลี่ยนสูตรคลีนเซอร์จากแบบน้ำมันเป็นแบบบาล์มหรือไมเซลลาร์วอเตอร์ แล้วตามด้วยคลีนเซอร์สูตรน้ำ
  • ใช้เรตินอลก่อนนอน วิตามินซีตอนเช้าเพื่อปรับผิวกระจ่างใส
  • ใช้กรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ที่แรงขึ้น 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ แต่ไม่ควรใช้คืนเดียวกับเรตินอล
  • มาสก์ดินดูดซับน้ำมันส่วนเกินและล้างรูขุมขน
  • เปลี่ยนไปใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลไร้น้ำมัน

เคล็ดลับทั่วไปสำหรับการดูแลผิวตามรอบเดือน

  • อย่าปรับหรือเปลี่ยนกิจวัตรแบบรวดเร็วในครั้งเดียว ควรเพิ่มหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทีละอย่าง ให้เวลาสังเกตผลอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนจะเปลี่ยนอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าผลลัพธ์ดีขึ้นหรือแย่ลง
  • แนวทางเหล่านี้เป็นแบบทั่วไป ผิวของแต่ละคนต่างกัน ควรฟังร่างกายและปรับให้เหมาะกับตัวเอง
  • อย่าลืมใช้ครีมกันแดดทุกเช้าเพื่อปกป้องผิวและเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
  • ดื่มน้ำและเครื่องดื่มที่อุดมด้วยอิเล็กโทรไลต์ตลอดรอบเดือน เพื่อบำรุงผิวจากภายใน
  • จดบันทึกสุขภาพผิวควบคู่กับการติดตามรอบเดือน เพื่อหาความสัมพันธ์และพัฒนากิจวัตรของคุณต่อไป

แล้วคนที่มี PCOS ดูแลผิวอย่างไรดี

กลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) คือภาวะฮอร์โมนผิดปกติพบได้ในผู้หญิง 1 ใน 10 คน จุดเด่นคือมีถุงน้ำรังไข่และฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง (ฮอร์โมนเพศชาย) ในเพศหญิงเรียกว่า ภาวะแอนโดรเจนสูง ซึ่งทำให้เกิดอาการขนดก สิว หรือผมร่วงแบบผู้ชาย ปัญหาผิวที่พบบ่อยที่สุดของผู้หญิงที่มี PCOS คือผิวมันและเป็นสิวง่าย

คนที่เป็น PCOS อาจมีสิวเรื้อรัง หนักและขยายไปยังใบหน้า หน้าอก และหลังส่วนบน ทำให้ต้องรับมือกับผิวมันเกือบตลอดรอบเดือน

ทำอย่างไรให้สุขภาพผิวดีขึ้นเมื่อต้องรับมือกับ PCOS:

  • ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน: เลือกคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนและไม่อุดตันรูขุมขน ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ถ้าผิวแห้งมาก อาจข้ามการล้างหน้าตอนเช้าได้
  • ควบคุมความมัน: ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรน้ำมันน้อย/ไม่อุดตันเป็นสำคัญ โดยเฉพาะมอยส์เจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดด
  • รักษาสิว: ผลิตภัณฑ์ที่มีซาลิไซลิกแอซิด หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์จะช่วยควบคุมสิว รวมทั้งเรตินอลและมาสก์โคลน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: วิตามินซีในตอนเช้าช่วยลดรอยสิวและรอยดำ ไนอะซินาไมด์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดรอยแดงและกระชับรูขุมขน
  • ผลัดเซลล์ผิว: AHAs และ BHAs แบบอ่อน ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์เร็วขึ้น แต่ควรใช้แค่ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ เท่านั้น และใช้เฉพาะก่อนนอนเพื่อเลี่ยงผิวไวต่อแดด

การดูแลผิวสำหรับคนที่มีไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism)

ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยยังเผชิญปัญหาไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism) คือไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไม่พอ ผลคือผิวแห้ง หยาบซีด บวม และแผลสมานช้า

ดูแลผิวเมื่อไทรอยด์ต่ำแบบไหนดี:

  • เติมน้ำ: ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรเข้มข้น ควรมีไฮยาลูรอนิค แอซิด กลีเซอรีน เซราไมด์ ใบบัวบกทั้งกิจวัตรเช้าและเย็น
  • ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน: เลือกคลีนเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อน ถ้าผิวแห้งมากข้ามการล้างหน้าตอนเช้าได้
  • ผลัดเซลล์ผิว: ถึงผิวแห้งก็ไม่ควรละเลย สามารถใช้กรดแลคติกอย่างอ่อน ๆ เป็นประจำ
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น ไนอะซินาไมด์ อโลเวร่า วิตามินซี และอี เพื่อปกป้องผิวจากการอักเสบและเพิ่มความเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา

ดูแลผิวตลอดรอบเดือนอย่างมั่นใจ

หวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณลองปรับกิจวัตรดูแลผิวให้ตรงกับรอบเดือน เลือกผลิตภัณฑ์และส่วนผสมที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผิวแข็งแรง เปล่งปลั่งสุขภาพดีเสมอ อย่าเปลี่ยนหรือเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยไม่ระวัง โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์แรง ๆ เพราะอาจทำลายเกราะปกป้องผิว

ติดตามรอบเดือนของคุณจะช่วยให้ปรับการดูแลผิวได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น ดาวน์โหลดWomanLog แอปติดตามรอบเดือน เพื่อช่วยดูแลผิวให้ตรงกับช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

ดาวน์โหลด WomanLog ได้แล้ววันนี้:

ดาวน์โหลดบน App Store

ดาวน์โหลดบน Google Play

แชร์บทความนี้:
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0018506X19301333
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/25683236/
https://thecenterforderm.com/how-your-menstrual-cycle-affects-your-skin/
Advertisement


เหตุผลเบื้องหลังความฝันเหนือจริง สีสันสดใส และอารมณ์ร่วมแรงก่อนมีประจำเดือนยังคงเป็นปริศนามาอย่างยาวนาน หลายคนที่มีประจำเดือนมักพบว่าตนเองฝันประหลาด โดดเด่นสุดขีดก่อนจะมีประจำเดือน นี่เป็นผลมาจากฮอร์โมนของเรานั่นเอง
การมีประจำเดือนครั้งแรกของเด็กหญิงคือเหตุการณ์สำคัญที่บ่งบอกจุดเริ่มต้นของวัยรุ่นและการเข้าสู่วัยผู้หญิง สำหรับบางคน นี่คือส่วนปกติของการเติบโต ในขณะที่บางคนต้องต่อสู้กับความเชื่อที่เป็นอันตรายซึ่งฝังรากลึกในวัฒนธรรมรอบตัว บทความนี้จะชวนคุณรู้จักกับความเชื่อผิดๆและปฏิบัติที่เกี่ยวกับประจำเดือนในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งอธิบายว่าทำไมอคติทางวัฒนธรรมต่อกระบวนการทางชีวภาพตามธรรมชาตินี้จึงเป็นภัยสำหรับหญิงสาว
คุณเคยนึกภาพไหมว่าวันหนึ่งคุณจะมีผู้ช่วยสุขภาพส่วนตัวในโทรศัพท์ของคุณ? ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ และเรากำลังเพิ่งเริ่มต้นค้นหาว่าเทคโนโลยีเช่นการเรียนรู้ของเครื่อง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ AI อื่น ๆ สามารถช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นได้อย่างไร แม้ว่าเรามักจะเชื่อมโยง AI กับเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่จริง ๆ แล้วมีหลายวิธีที่เราจะได้รับประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับรอบเดือนและสุขภาพเจริญพันธุ์ของผู้หญิงได้ง่ายยิ่งขึ้น