ใหม่! เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการบัญชีของคุณ ดูบันทึก ดาวน์โหลดรายงาน (PDF/CSV) และดูข้อมูลสำรองของคุณ เข้าสู่ระบบที่นี่!
แชร์บทความนี้:

ทำไมช่วงมีประจำเดือนถึงอ่อนไหวทางอารมณ์มากเป็นพิเศษ?

ระยะก่อนมีประจำเดือนและช่วงมีประจำเดือนมักมาพร้อมกับผลกระทบทางอารมณ์ที่ไม่น่าพึงใจ การพูดคุยเรื่องอารมณ์และรอบเดือนยังเป็นเรื่องเปราะบาง เพราะผู้หญิงยังคงถูกลดค่าและถูกละทิ้งเมื่อแสดงความรู้สึก ทำให้ประสบการณ์จริงของผู้หญิงถูกเพิกเฉยหรือมองข้าม ความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ระหว่างรอบเดือนเป็นเรื่องปกติ—ในบางระดับ—มาสำรวจไปพร้อมกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราในช่วง PMS และเฟสอื่นๆของรอบเดือน

ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ช่วงมีประจำเดือน - คู่มือภาพที่ยอมรับและทำให้เป็นเรื่องปกติของอารมณ์ในรอบเดือน

ตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่นจนถึงวัยหมดประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปตามรอบเดือน แต่อย่าลืมว่าแต่ละคนล้วนแตกต่างและเผชิญความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ การอ่อนไหวทางอารมณ์ไม่ใช่จุดอ่อน แต่หากอารมณ์แย่จนรบกวนชีวิตประจำวัน ไม่ควรปล่อยผ่านอย่างไร้การใส่ใจด้วยเช่นกัน

ทำไมฉันถึงรู้สึกอ่อนไหวทางอารมณ์มากขึ้นในช่วงมีประจำเดือน?

เป็นเพราะฮอร์โมนหรือเปล่า? เข้าใจรอบเดือนของผู้หญิง

ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจระหว่างรอบเดือน โดยเฉพาะวันก่อนและช่วงที่มีประจำเดือน ฮอร์โมนสองตัวที่มีผลต่ออารมณ์และอาการ PMS ที่สำคัญคือ เอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรน

เอสโตรเจน จะเพิ่มขึ้นในช่วงแรกของรอบเดือน สูงสุดและลดลงรวดเร็วช่วงก่อนตกไข่—เป็นจุดที่คุณรู้สึกดี คล่องตัว โปรเจสเตอโรนจะเพิ่มและลดแบบโค้งระฆังในครึ่งหลังของรอบเดือน การเปลี่ยนแปลงของสองฮอร์โมนนี้เพื่อควบคุมระบบสืบพันธุ์ มีผลต่อปฏิกิริยาทางอารมณ์ของผู้หญิงกับสิ่งรอบตัวในแต่ละช่วง

ช่วงที่เอสโตรเจนสูง โดยเฉพาะในเฟสฟอลลิคูลาร์จะทำให้เรามีพลัง สดใส เข้าสังคมได้ดีและรู้สึกพร้อมเผชิญเรื่องยาก เมื่อเอสโตรเจนสูงสุด (ใกล้วันตกไข่) คุณอาจพร้อมเข้าสังคม มีแรงฮึดจิตใจดี และรับมือสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

โปรเจสเตอโรน ทำหน้าที่เป็น “ฮอร์โมนแห่งการตั้งครรภ์” ช่วยเตรียมเยื่อบุมดลูกและเอื้อต่อการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว มีฤทธิ์ช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย โดยเห็นชัดในช่วงเฟสลูทีล (ครึ่งหลัง) ก่อน PMS และประจำเดือนมา

หากไม่เกิดการตั้งครรภ์ เยื่อบุมดลูกจะถูกขับออกมา ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลงทันที หากไข่ผสมแล้วฝังตัวสำเร็จ ระดับโปรเจสเตอโรนจะยังคงสูงต่อเนื่องเพื่อพยุงการตั้งครรภ์

การผันผวนของโปรเจสเตอโรน โดยเฉพาะการลดลงฉับพลัน อาจเป็นต้นเหตุของอารมณ์หงุดหงิด ผู้หญิงหลายคนสัมผัสถึงความต่างในแต่ละช่วงของรอบเดือนได้ชัด ไม่ว่าจะผ่านอาการ PMS หรือความรู้สึกโดยรวม จะลำบากมากขึ้นสำหรับผู้หญิงที่มี PMS รุนแรงหรือเป็นภาวะ premenstrual exacerbation, PMSD หรืออาการที่เกี่ยวข้อง

ฤดูกาลของปี

ความต่างของฮอร์โมนแต่ละเฟสเปรียบได้กับฤดูต่างๆ ของปี ช่วงประจำเดือนเสมือนฤดูหนาว ทุกอย่างจะช้าลง ร่างกายต้องการการพักผ่อนเพิ่ม ขณะที่ช่วงตกไข่เหมือนฤดูร้อน เป็นเวลาที่สดใส มั่นใจ และแข็งแกร่งที่สุด

ควรสังเกตว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรในแต่ละช่วง จะช่วยวางแผนชีวิตได้เหมาะกับร่างกายตัวเองในแต่ละวัน

ความไม่สบายตัวทางร่างกาย?

นอกจากเรื่องฮอร์โมนแล้ว ความไม่สบายจากอาการปวดท้อง ท้องอืด เจ็บคัดเต้านม อยากกินอาหารหรือปวดศีรษะ ล้วนเพิ่มภาระทางอารมณ์ช่วงมีประจำเดือน

ใครจะสดใสได้เมื่อปวดท้อง หนักตัว เหนื่อย และต้องกังวลเรื่องเลือดซึม? ถึงจะมีวันที่ดีในวันมีประจำเดือน แต่ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดหากคุณรู้สึกแย่บ้างในช่วงนี้ ไม่ได้ทำให้คุณเก่งน้อยลง อาการเหล่านี้เป็นเหตุผลดีแล้วที่ควรผ่อนปรนให้ตัวเอง

ปัจจัยทางสังคม?

อารมณ์ของเรายังได้รับผลโดยตรงจากการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น คุณเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมหรือมีเพื่อนที่ไว้วางใจระบายความรู้สึกหรือเปล่า? คุณรู้สึกปลอดภัยไหม? การเข้าสังคม โดยเฉพาะเมื่อมีอาการ PMS รุนแรง อาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและเครียด วันนี้ใส่กางเกงตัวนี้จะดีไหม ไปว่ายน้ำช่วงนี้ได้ไหม จะขอยืมผ้าอนามัยกับใครดี?

ผู้หญิงที่ขาดแคลนหรือเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประจำเดือนไม่ได้ต้องเผชิญภาวะ period poverty (ความยากจนจากการมีประจำเดือน) ซึ่งลดทอนคุณค่าและสร้างความยากลำบาก ถ้าคุณต้องขาดเรียนหรือขาดงานเพราะประจำเดือน แน่นอนว่าจะเครียด วิตกกังวล และไม่มีความสุข ซึ่งถ้าเครียดจากปัจจัยอื่นๆ อยู่แล้ว ก็ยิ่งส่งผลให้อาการ PMS กระทบจิตใจมากขึ้น

เกี่ยวกับสารสื่อประสาท?

ฮอร์โมนเพศยังมีอิทธิพลต่อ “ฮอร์โมนแห่งความสุข” คือสารสื่อประสาทอย่าง เซโรโทนิน (ควบคุมอารมณ์ การนอน การกิน), โดพามีน (ให้ความพึงพอใจและรางวัล), เอ็นโดรฟิน (บรรเทาอาการเจ็บปวดและเพิ่มความสุข) และ GABA (ลดกิจกรรมของระบบประสาทและควบคุมอารมณ์) ระดับเซโรโทนินยังผันผวนตามฮอร์โมนและอาการ PMS ด้วย

ร้องไห้ช่วงประจำเดือนปกติไหม?: สำรวจอารมณ์ในช่วงมีประจำเดือน


ร้องไห้ในช่วงมีประจำเดือนเป็นเรื่องปกติไหม?

ในระดับหนึ่ง—ใช่ เป็นเรื่องปกติมาก การร้องไห้เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ ช่วยปรับสมดุลตัวเอง น้ำตาเวลาเศร้าจะมีฮอร์โมนความเครียด เราจึงรู้สึกเบาขึ้นหลังร้องไห้ เหมือนเวลาพูดคำหยาบก็ช่วยคลายเจ็บคล้ายกัน

ไม่มีอะไรผิดถ้าคุณรู้สึกอ่อนไหวทางอารมณ์ตอนไหนก็ตาม เพราะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ แต่ถ้ารู้สึกซึมเศร้าอย่างรุนแรงหรือเปลี่ยนอารมณ์ไม่สามารถควบคุมได้ ควรเช็คสุขภาพเพิ่มเติม

พยายามอย่าไปคิดวนกับเรื่องแย่ๆ มากเกินไปจนตัวเองเครียดกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่าความรู้สึกของเรานั้นมีเหตุผล แม้จะรุนแรงเกินจริงบ้างบางครั้ง จริงที่ว่าความวิตกกังวล กับสมองอาจหลอกเราให้มองโลกแย่เกินไป แต่เราก็ยังจำเป็นต้องยอมรับและจัดการกับสิ่งรอบตัว

ความรู้สึกอ่อนไหวเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังสื่อสารว่ามีอะไรผิดปกติ และบางครั้งก็เป็นเหตุผลที่สมควร

ร้องไห้และอารมณ์แปรปรวน

เรารู้ เช่น ระดับเอสโตรเจนของผู้หญิงแต่ละคนต่างกันมากในช่วงเดียวกันระหว่างรอบเดือน แม้วัดระดับฮอร์โมนได้ชัดเจน แต่ก็ยังคาดเดาการตอบสนองทางอารมณ์ไม่ได้เสมอ แม้ฮอร์โมนมีบทบาทตรง

ผู้หญิงหลายคนที่มีPMS หรือ PMDD (Premenstrual dysphoric disorder) มีระดับเอสโตรเจน “ปกติ” ดังนั้นปัญหาอาจอยู่ที่วิธีที่ฮอร์โมนเหล่านี้ตอบสนองต่อกลไกอื่นในร่างกาย ผู้หญิงบางคนแปรปรวนมากเมื่อเอสโตรเจนสูง แต่บางคนรู้สึกนิ่งช่วงหมดประจำเดือนเมื่อฮอร์โมนต่ำ

บางคนรู้สึกเศร้า หงุดหงิด โมโห หรือวิตกกังวลเมื่อโปรเจสเตอโรนสูง แต่บางคนจะรู้สึกแปรปรวนมากช่วง “ถอนโปรเจสเตอโรน” อาการหลังคลอด ภาวะก่อนหมดประจำเดือน และหลังหมดประจำเดือนล้วนพบเฉพาะในผู้หญิง แสดงว่าเพศฮอร์โมนยังมีบทบาทมากเช่นกัน

หากอาการอารมณ์รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์

ปัจจัยอื่นๆ

อาการทางกายและจิตใจอื่นๆ

ไม่ใช่แค่ฮอร์โมนที่มีผลกับสมองและร่างกายเมื่อคุณอยู่ในช่วงมีประจำเดือน อาการทางกาย เช่น ปวดท้องหรือท้องอืด ล้วนกระทบความรู้สึกโดยตรง ใครชอบปวดแบบนี้? ไม่มีเหตุผลที่ต้องอดทนกับอาการไม่พึงประสงค์เพียงเพราะว่าเป็นเรื่องปกติของร่างกาย


ไม่มีอะไรผิดหากเลือกกินยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจาก PMS หรือประจำเดือน เพราะช่วยให้อารมณ์และความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ความเครียด ไลฟ์สไตล์ โภชนาการ

ชีวิตไม่หยุดนิ่งแค่เพราะมีประจำเดือน ความเครียดในชีวิตประจำวันยังตามมาได้ ฮอร์โมนต่ำในวันที่อารมณ์ตกจะทำให้สถานการณ์แย่ลง จัดการได้ยากขึ้น

บางครั้งยาคุมที่คุณใช้ก็มีผลต่ออารมณ์ หรืออาจคุมอารมณ์มากเกินไป (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยาหรือเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น

Advertisement


Premenstrual dysphoric disorder

Premenstrual Dysphoric Disorder หรือ PMDD คือรูปแบบรุนแรงของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) พบในผู้หญิงส่วนน้อย PMDD จะมีความผิดปกติทางอารมณ์และอาการทางกายรุนแรงในช่วงเฟสลูทีล 1-2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา แตกต่างจาก PMS ตรงที่อาการจะรุนแรงและรบกวนชีวิตประจำวันอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ควรละเลยเด็ดขาด

PMDD ส่งผลกระทบราว 3-8% ของผู้หญิงทั่วโลก (ราว 1 ใน 20 คน) แม้เปอร์เซ็นต์ไม่สูงมากแต่ก็พบได้บ่อย อาการมักเริ่มตอนกลางวัยรุ่นปลายยี่สิบขึ้นไป และมักหนักขึ้นเมื่อใกล้วัยหมดประจำเดือน

รับมือกับอารมณ์แปรปรวน

อารมณ์แปรปรวนที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนไม่ได้หมายความว่ามีปัญหาเสมอไป ผู้หญิงจำนวนมากมีภาวะอารมณ์เปลี่ยนไปช่วงนี้แต่ไม่ถึงกับกระทบชีวิต ถึงอย่างไรอารมณ์คือภาพสะท้อนสุขภาพโดยรวม ทุกสิ่งที่เราทำเพื่อสุขภาพล้วนส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น

ใส่ใจตัวเองและปรับชีวิตให้สอดคล้องกับช่วงของรอบเดือนเท่าที่ทำได้ ได้พักผ่อนเพียงพอหรือยัง ออกกำลังกาย ยืดเส้นบ้าง ดื่มน้ำ และใช้เวลาอยู่กลางแจ้งอยู่หรือไม่อาหารมีประโยชน์หรือเปล่า?

การดูแลตัวเองสำคัญมากในช่วงนี้ เลี่ยงอาหารเค็ม ลดอาการบวมน้ำ ใช้การออกกำลังกายเบาๆ และนอนหลับให้พอดี เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อตัวเองอย่างดีที่สุด คุณคู่ควรเสมอ!

ลองดูแลตัวเองแบบนี้:

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ใช้แผ่นประคบร้อนบรรเทาปวดท้องประจำเดือนหรือบรรเทาเมื่อร่างกายตึง
  • กินอาหารโภชนาการครบถ้วน
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายเบาๆ โดยไม่หักโหม
  • ลดคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
  • สังเกตอารมณ์ของตัวเองและหาวิธีดูแลตัวเองเวลาอารมณ์ตก: ฟังเพลงโปรด ดูหนังคลายเครียด เดินเล่น หรืองานอดิเรกที่ทำให้มีความสุขและแข็งแรง

หากการดูแลตัวเองเบื้องต้นยังไม่ช่วย หรืออาการของคุณรบกวนการใช้ชีวิตจนดูแลตัวเองไม่ได้ อาจมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด

บทสรุป

ในอดีต ผู้หญิงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้จะถูกวินิจฉัยว่าเป็น “ฮิสทีเรีย” และถูกกักขังเพราะไม่มีใครเข้าใจ แม้ปัจจุบันแพทย์บางคนยังคงมองข้ามเรื่องร้องเรียนของผู้หญิงที่ควรรักษา แม้อาการ PMS จะแสดงออกแตกต่างกันไป แต่การต้องทนทุกข์เพราะอารมณ์ไม่ใช่เรื่องปกติ

หากคุณมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับรอบเดือนและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต อย่ารอให้เป็นเรื่องใหญ่ รีบขอความช่วยเหลือได้เลย ไม่มีใครสมควรต้องทนทุกข์ อาการเศร้าและอารมณ์ตกเป็นระยะเป็นเรื่องปกติ มีวิธีดูแลตัวเองและลองปรับเปลี่ยนหลายทางเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นได้

ดาวน์โหลด WomanLog ตอนนี้:

Download on the App Store

Get it on Google Play

Explore it on AppGallery

แชร์บทความนี้:
https://www.womanlog.com/cycle/premenstrual-dysphoric-disorder-understanding-pmdd
https://www.womanlog.com/cycle/what-is-premenstrual-exacerbation-and-how-can-it-affect-your-mental-health
https://www.womanlog.com/cycle/how-do-hormones-affect-you-during-your-cycle
https://www.med.unc.edu/psych/wmd/resources/mood-disorders/menstrually-related/
https://kidshealth.org/en/teens/period-blues.html
https://www.in-mind.org/article/how-much-does-the-menstrual-cycle-affect-emotional-life
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fnins.2014.00380/full
https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0959353519836445
https://www.medicalnewstoday.com/articles/319631
http://e.hormone.tulane.edu/learning/types-of-hormones.html
https://www.nhs.uk/conditions/pre-menstrual-syndrome/
https://www.webmd.com/women/guide/estrogen-and-womens-emotions
Advertisement


เมื่อระดับฮอร์โมนเริ่มลดลงหลังการตกไข่ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น เจ็บหน้าอก ท้องอืด หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลง อาการเหล่านี้มักเชื่อมโยงกับกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) สำหรับผู้หญิงที่ประสบกับกลุ่มอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน (PMDD) โดยเฉพาะในเรื่องอารมณ์ อาการจะรุนแรงและสังเกตได้ชัดเจนมากขึ้น
ยาคุมกำเนิด, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ช่วงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน—มีหลายสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดในทุกช่วงของรอบเดือน การวินิจฉัยที่แม่นยำจะนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
การมีประจำเดือนสม่ำเสมอเป็นสัญญาณของสุขภาพที่ดีโดยรวม หากประจำเดือนไม่มาตรงเวลา เรามักจะรู้สึกกังวล ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีความแปรปรวนของรอบเดือนบ้าง คุณรู้จักรอบเดือนของตัวเองดีแค่ไหน?